ข่าว

อดีตผู้สมัครนายก ทม. ฟันธง! "น้องห่าน" ไม่ผ่านโปร ตำแหน่ง กำจัดจอกแหน

อดีตผู้สมัครนายก ทม. ฟันธง! "น้องห่าน" ไม่ผ่านโปร ตำแหน่ง กำจัดจอกแหน

22 ส.ค. 2568

อดีตผู้สมัครนายก ทม. ฟันธง! "น้องห่าน" ไม่ผ่านโปร "เจ้าพนักงานกำจัดจอกแหน" ชี้ เทศบาลฯ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด แต่ได้แลนด์มาร์ก คนแห่ชมความน่ารัก

จากกรณี เทศบาลนครเชียงใหม่ ทดลองนำฝูงห่าน จำนวน 10 ตัว มาปล่อยเลี้ยงไว้ในคูเมืองเชียงใหม่ หวังช่วยจัดการปัญหาสาหร่ายเขียวในคูเมือง หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้ำเสีย โดยใช้ระยะเวลาทดลอง 1 สัปดาห์ ซึ่งวันนี้ (22 ส.ค. 68) เป็นวันที่ 2 แล้ว ขณะเดียวกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ฝูงห่านได้พากันวิ่งไปบนถนน จนเกือบจะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางจราจร อีกทั้งเจ้าหน้าฯ ยังต้องลงทุนกระโดดลงน้ำ เพื่อไล่ต้อนฝูงห่าน ให้กลับเข้าเล้า ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการเผยแพร่ภาพทางโลกออนไลน์ และทำให้เกิดเสียงแตกออกเป็นสองฝั่ง คือ มองว่าพื้นที่และแนวความคิดดังกล่าวไม่เหมาะสม อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนและตัวห่านเอง อีกฝั่งมองว่าเป็นความน่ารัก อาจจะกลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว และมองดูเป็นธรรมชาติดี ซึ่งทางนายกเทศมนตรี ยืนยันว่าจะเดินหน้าทดลองต่อไป และหากได้ผลจะขยายเพิ่มอีกหลายจุด แม้จะมีคนทักท้วงห่วงเรื่องของความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่ใกล้กับการจราจรก็ตาม
 

อดีตผู้สมัครนายก ทม. ฟันธง! \"น้องห่าน\" ไม่ผ่านโปร ตำแหน่ง กำจัดจอกแหน อดีตผู้สมัครนายก ทม. ฟันธง! \"น้องห่าน\" ไม่ผ่านโปร ตำแหน่ง กำจัดจอกแหน

22 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของชาวบ้าน โดย นายหวัน ผู้ประกอบการรถโดยสารรับจ้างสี่ล้อแดง เปิดเผยว่า ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นห่านของใคร นึกว่าเป็นของชาวบ้านหลุดออกมา แต่ก็มองว่าสวยงามน่ารักดี และวันนี้พอทราบข่าวว่าเป็นการนำมาทดลองเพื่อแก้ปัญหาน้ำในคูเมือง ก็มองว่าอาจจะได้ผล เพราะธรรมชาติของห่านจะกินไม่เลือกอยู่แล้ว แม้แต่หญ้าก็จะเล็มกินได้ ที่สำคัญที่ผ่านมา พบว่ามีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาถ่ายภาพกันคึกคัก ส่วนเรื่องของความปลอดภัยเชื่อว่าห่านเป็นสัตว์ที่ขี้กลัวอยู่แล้ว ไม่น่าจะกล้าลงไปบนท้องถนน

ด้าน นายธีรวุฒิ แก้วฟอง อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ จากพรรคประชาชน มองว่า เป็นการทำมากได้น้อย เพราะว่าต้องมีการลงทุนซื้อห่าน 10 ตัว ทำคอกเลี้ยง และต้องใช้คนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา เมื่อวานเห็นในโซเชียลพบว่ามีเจ้าหน้าที่ถึงสี่คนที่ต้องดูแลห่าน ทั้ง 10 ตัว หรือเป้าหมายเพียงเพื่อที่จะทำให้น้ำใสขึ้น เพื่อที่จะให้ห่านไปกินจอกแหน เป็นวิธีการบำบัดทางธรรมชาติ โดยตั้งเป้าว่าจะให้น้ำใสขึ้น มองว่าน่าจะเป็นการทำที่ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะหากต้องใช้ 4 คน ในการดูแลห่าน แต่จะดีไหมว่าเปลี่ยนพนักงาน 4 คนนั้น ให้ไปตักจอกแหนขึ้นมา จะมีประสิทธิภาพมากกว่า หรือไม่ก็ให้พัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำโดยวิธีอื่น
 

เช่น การใช้สารเคมีหากมีความจำเป็น หรือการใช้สารอีเอ็ม โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ บริเวณคูเมืองด้านประตูเชียงใหม่ ซึ่งอย่างที่เราทราบว่าเป็นโซนของตลาด ร้านค้า และร้านอาหาร มีบางส่วนที่จะทำให้เกิดน้ำเสียจากตลาดหรือสถานประกอบการ โดยเฉพาะน้ำที่มีส่วนผสมของผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจาน ซึ่งตรงนี้จะมีผลโดยตรงกับสิ่งมีชีวิตประเภทพืชหรือสาหร่ายในน้ำ เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะเป็นสารอาหาร
 

อดีตผู้สมัครนายก ทม. ฟันธง! \"น้องห่าน\" ไม่ผ่านโปร ตำแหน่ง กำจัดจอกแหน

ส่วนเรื่องของสุขอนามัย มองว่ามันเป็นพื้นที่ที่ติดถนน ก็เป็นห่วงว่าจะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือไม่กับการเลี้ยงห่าน เพราะเมื่อวานยังเห็นภาพของการ ต้อนห่าน จนวิ่งลงไปบนท้องถนน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันก็ส่งผลดีต่อภาพของการท่องเที่ยว คือกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวและชาวเชียงใหม่ ไปถ่ายรูปน้องห่าน กลายเป็นผลพลอยได้ ที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโครงการที่จะทำ

ซึ่งความเป็นจริงแล้วตัวห่านเองมีความน่ารัก แต่เราลืมจุดประสงค์แรกหลักในการที่จะนำมาทดลองใช้บำบัดน้ำเสีย ในส่วนตัวแล้วมองว่าน้อง ๆ ทั้ง 10 ตัวน่าจะสอบตกในเรื่องของการทำงานด้านการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งคอยดูว่าหลังจากนี้อีกประมาณ 10 วันจะทำให้สภาพน้ำดีขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ กลับสอบผ่านในด้านของการเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยว จึงควรจะไปอยู่ในส่วนที่เหมาะสมและปลอดภัยในจุดต่าง ๆ ของเทศบาล อย่างเช่น สวนสาธารณะหนองบวกหาด สวนหลวงล้านนา ซึ่งมีทั้งสระน้ำขนาดใหญ่และมีพื้นที่มีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งก็จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างภูมิทัศน์ที่ดีให้กับคนที่ไปท่องเที่ยวและออกกำลังกาย ซึ่งห่านเองก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าริมถนน

อย่างไรก็ตามมองว่า ห่านทั้ง 10 ตัวไม่ผ่านโปรฝึกงานอย่างแน่นอน เพราะเป็นการโฟกัสที่ผิดจุด เราไปโฟกัสกับสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เมืองมีชีวิตชีวา กลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จนทำให้แนวคูเมืองเป็นจุดสนใจ แต่จริง ๆ แล้วไม่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักของทางเทศบาลที่ต้องการคือการบำบัดน้ำเสีย เทศบาลควรที่จะไปดำเนินการกับต้นตอของสาเหตุ ที่ทำให้เกิดน้ำเสียและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด