สามีครู ขับกระบะเหยียบ ป.6 เปิดใจขอโทษ พร้อมช่วยเหลือ เยียวยาเต็มที่ | คมชัดลึก

จากกรณีสามีครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ขับกระบะทับกลางหลัง นักเรียนชาย ชั้น ป.6 ขณะกำลังนั่งรอผู้ปกครอง ได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บสาหัส กระดูกเชิงกรานแตก เหตุเกิดบริเวณลานปูนโดมภายในโรงเรียน เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 18 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา

20 ส.ค. 2568 นายราชันย์ ซุนฮั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย ว่าที่ ร้อยตรี รักษ์ชัย เลิศสุบิน ปลัดจ.อุดรธานี, ผอ.โรงเรียน เดินทางเข้าเยี่ยม "น้องตังค์" ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี โดยผู้ว่าฯ ได้มอบกระเช้าแสดงความห่วงใย และสอบถามอาการกับทีมแพทย์และพยาบาล พบว่าสภาพร่างกายของน้องอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนสภาพจิตใจฟื้นตัวได้มาก

ผอ.โรงเรียน บอกว่า เรื่องเรียนของน้องตังค์ช่วงที่รักษาตัวอยู่ก็ไม่ต้องห่วง ทางโรงเรียนจะให้ครูมาสอนและเอาใบงานมาส่งถึงห้องที่รักษาตัว เพื่อให้น้องเรียนทันเพื่อน ให้คุณพ่อและคุณแม่สบายใจได้ ตนเองได้พูดคุยกับคู่กรณี เขาพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง เขาอ้างว่ามองไม่เห็นเด็กจริง ๆ ส่วนเรื่องคดีตำรวจยังไม่ตั้งข้อหา ต้องรอดูการรักษา หากเกิน 22 วัน จะแจ้งข้อหา "ขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส"
 

น.ส.ริน อายุ 45 ปี แม่ของน้องตังค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของน้องปลอดภัยแล้ว แพทย์ระบุว่าจำเป็นต้องพักฟื้นต่ออีกประมาณ 3 สัปดาห์ เพื่อให้กระดูกเชิงกรานเชื่อมติดกันตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด สำหรับการดูแลจากคู่กรณี ทางคนขับรถได้เข้ามารับปากว่าจะดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่ ไม่ได้ทอดทิ้ง พร้อมทั้งแสดงความเสียใจและขอโทษ ซึ่งในฐานะผู้ปกครองส่วนตัวแล้วไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด

คุณแม่ บอกอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และอยากให้เป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้นภายในบริเวณโรงเรียน จึงอยากฝากให้โรงเรียนทุกแห่งหามาตรการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนภายในโรงเรียนอย่างจริงจัง ทั้งนี้ น้องตังค์เป็นเด็กที่มีความฝัน และมีความสามารถ รักการเล่นวอลเลย์บอล ชอบเล่นเกม และเป็นเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมอยู่เสมอ ตอนที่รู้ขาวว่าลูกชายถูกรถเหยียบร่าง หัวอกคนเป็นแม่ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เสียใจและร้องไห้

ด้าน นายผาน อายุ 53 ปี คนขับรถกระบะ เปิดใจว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ขอพูดถึงรายละเอียดว่าเรื่องราวเริ่มจากอะไร แต่ในฐานะคู่กรณีและเป็นผู้ขับรถกระบะคันดังกล่าว ยืนยันว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ตนได้ยอมรับผิด และพร้อมจะช่วยเหลือ เยียวยา ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และสัญญาว่าจะดูแลให้ถึงที่สุด

อยากกล่าวคำขอโทษและขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนครั้งนี้ ส่วนสังคมที่มองว่าเป็นความประมาท ก็ยอมรับว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ในขณะนั้นตนมองไม่เห็นจริง ๆ