
สคบ. – กรมการค้าภายใน เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขาย "ไข่เจียวปู"
วันพรุ่งนี้ (20 ส.ค. 68) สคบ. - กรมการค้าภายใน เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขาย "ไข่เจียวปู" ระบุราคา 1.5 พัน แต่เรียกเก็บ 4 พัน
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบกรณีร้านอาหารจำหน่ายไข่เจียวปู ผู้บริโภคร้องเรียนว่า มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับราคาที่ระบุไว้ในเมนู โดยเมนูไข่เจียวปู ระบุราคาที่ 1,500 บาท แต่เมื่อชำระเงินกลับถูกเรียกเก็บสูงถึง 4,000 บาท ทำให้ผู้บริโภคเสียหาย โดยมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ในวันพุธที่ 20 ส.ค. 2568
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มอบให้นายอนุพงษ์ เจริญเวช ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค 2 ร่วมกับกรมการค้าภายใน ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยกรมการค้าภายในจะเน้นตรวจสอบตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เกี่ยวกับการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
ขณะที่ สคบ. จะตรวจสอบการโฆษณาไข่เจียวปู ที่อาจเข้าข่ายโฆษณาไม่ตรงตามความเป็นจริง หรือสร้างความเข้าใจผิดต่อสาระสำคัญของสินค้า เช่น การระบุว่า เป็นเมนูพิเศษ โดยระบุราคาไว้ แต่มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในเมนู หรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ จะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคจะมีสิทธิได้รับการชดเชยความเสียหาย
ในกรณีนี้ สคบ. ตรวจสอบแล้วยังไม่มีการร้องทุกข์จากผู้เสียหายดังกล่าว หากมีการร้องทุกข์ สคบ. จะดำเนินการด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม สคบ. ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) ที่ให้ สคบ. ดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคในทุกกรณีที่ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหาย
โดยเรื่องร้องเรียนใดอยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่นจะประสานส่งเรื่องให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ปัจจุบันรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้สคบ. นำระบบ "Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์)" ซึ่งระบบนี้ เมื่อเกิดการร้องทุกข์สามารถส่งเรื่องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง รวมถึง สคบ. ด้วย เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภค
นอกจากนี้ สคบ. ได้มีนโยบายการกระจายอำนาจลงไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำเทศบาล หรือคณะอนุกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภคประจำองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ หรือเมืองพัทยา และสำนักงานเขตทุกเขตของกรุงเทพมหานคร