
ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งสอบข้อเท็จจริง ถูกแอบอ้างสแกนลายเซ็น ลงนามหนังสือราชการ
ผู้ว่าฯ สงขลา เอาจริง! ตั้ง กก. สอบข้อเท็จจริง ถูกแอบอ้างสแกนลายเซ็น ผู้เชี่ยวชาญ ตั้งข้อสังเกต "หนังสือราชการ" หลายจุดไม่ถูกต้อง
จากกรณีที่เป็นข่าวปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ มีการนำภาพหนังสือราชการจังหวัดสงขลาปลอม แอบอ้างสแกนลายเซ็น "ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา" ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 ส.ค. 2568 นั้น โดยหนังสือฉบับดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่สื่อโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสียส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา
19 ส.ค. 2568 นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา ที่ 39407/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 54 และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย
- 1. นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการ
- 2. นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ปลัดจังหวัดสงขลา กรรมการ
- 3. นางสาวลัดดาวัลย์ สุวรรณรัตน์ นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานจังหวัดสงขลา กรรมการและเลขานุการ
- 4. นายถวัลย์ชัย พรหมมา นิติกรชำนาญการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ผู้ช่วยเลขานุการ
- 5. นายภูวนัย จันสุกศรี ผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ ตามคำสั่งดังกล่าวระบุ ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานกรณีดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้งเพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริง ให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป สั่ง ณ วันที่ 18 ส.ค. 2568 ลงนาม นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำหนังสือราชการยังตั้งข้อสังเกตว่า หนังสือราชการฉบับดังกล่าวมีหลายจุดไม่ถูกต้อง เช่น เรื่องการใช้ถ้อยคำในหนังสือ ซึ่งหากเป็นหนังสือสั่งการจากผู้บังคับบัญชาลงไปจะไม่ใช้ถ้อยคำว่า ตั้งเรื่อง ขอความอนุเคราะห์ หรือลงท้ายว่า ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ส่วนชื่อเต็มใต้ลงนามลายเซ็น ในทางปฏิบัติปกติมักเป็นการประทับตราสดเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบฟอร์มเอกสารราชการที่พิมพ์ผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น ซึ่งจากข้อสังเกตต่าง ๆ ทำให้ทราบว่าหากเป็นหนังสือสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาจริง ถ้อยคำบนหนังสือจะต้องปรากฏข้อสั่งการอีกแบบหนึ่ง และแบบฟอร์มเอกสารราชการต้องถูกต้องตามระเบียบ
จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้จังหวัดสงขลาต้องกำชับส่วนราชการให้เคร่งครัด เรื่องการนำลายเซ็นสแกนของผู้บังคับบัญชาไปใช้ เนื่องจากการปลอมแปลงเอกสารราชการมีโทษทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา ส่งผลกระทบต่อบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างรวมถึงภาพลักษณ์ของจังหวัดและส่วนราชการ