
มุกใหม่! "ฮุน เซน"(Hun Sen) หลังปลดบล็อกชาวเน็ตไทย อ่านแล้วร้อง ฮ่วย
มุกใหม่! "ฮุน เซน"(Hun Sen) หลังปลดบล็อกชาวเน็ตไทย อ่านแล้วร้อง ฮ่วย งานนี้โยงถึง รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย "ภูมิธรรม เวชยชัย"
หลังจากที่บล็อกชาวเน็ตไทยไปไม่นาน ล่าสุด "สมเด็จฮุน เซน"(Samdech Hun Sen ) ผู้นำประเทศกัมพูชา ในฐานะประธานวุฒิสภากัมพูชา
ผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลอันบิดเบือนต่อสายตาชาวโลกต่อเนื่อง และบิดตาประชาชนชาวเขมรนำเสนอข่าวปลอมแบบอยู่คนละโลก ตีหน้าเศร้าเล่าความปลอมบ่อยครั้ง หลังจากที่ ทหารกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มการโจมตีพลเรือนไทย นำไปสู่ประเทศไทยต้องปกป้องอธิปไตย และมาถึงจุดสมรภูมิปะทะเดือน ดราม่าลากยาวจนปัจจุบันนี้ซ้ำยังไม่ยอมรับใส่ร้ายทหารไทย
ล่าสุด "สมเด็จฮุน เซน"(Samdech Hun Sen ) มีมุกใหม่ออกมาให้ตลกกันอีกแล้ว ซึ่งได้โพสต์ลงโซเชียลอย่าง FB มีเนื้อหาแปลเป็นไทยว่า
แปลเนื้อหาจากโพสต์ของ "สมเด็จฮุน เซน"(Samdech Hun Sen ) เนื้อหาจี้ไปที่ รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย "ภูมิธรรม เวชยชัย" นั่นเอง
"หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยกล่าวว่า "หากฮุนเซนและฮุน มาเนต์ถูกจับกุมในประเทศไทย จะถูกจับกุมทันที" หากรายงานข่าวเป็นความจริง ที่รักษาการนายกรัฐมนตรีกล่าว เมื่อใกล้สิ้นวาระ
แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนป่าเถื่อนที่ไม่รู้กฎเกณฑ์และขนบธรรมเนียมประเพณี และไม่ได้แม้แต่การทูต
"หากไทยสามารถจับกุมผู้นำกัมพูชาได้ กัมพูชาก็สามารถจับกุมผู้นำไทยบางคนที่รุกรานและสังหารชาวกัมพูชาได้เช่นกัน"
กฎเกณฑ์และขนบธรรมเนียมประเพณีถูกทำลายโดยผู้รุกราน เจตนารมณ์นี้เพื่อสร้างความไว้วางใจและนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดี หรือเพื่อทำลายและสร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่หลังจากข้อตกลงหยุดยิง?"
"តាមកាសែតថៃចុះផ្សាយមុននេះបន្តិចថា លោកនាយករដ្ឋមន្ត្រីស្តីទីថៃបាននិយាយថា លោក ហ៊ុន សែន និង ហ៊ុន ម៉ាណែត និងត្រូវចាប់ខ្លួនភ្លាមប្រសិនបើរកឃើញក្នុងប្រទេសថៃ។
ប្រសិនបើការចុះផ្សាយរបស់កាសែត
ជាសំដីពិតរបស់នាយករដ្ឋមន្ត្រីស្តីទី
ជិតផុតអាណត្តិបង្ហាញឲ្យឃើញថា គាត់
គឺជាមនុស្សព្រៃមិនស្គាល់អ្វីទៅជាច្បាប់ទម្លាប់ហើយមិនទាំងចេះការទូតទៀតផង។
ប្រសិនបើថៃអាចចាប់មេដឹកនាំកម្ពុជាបាន កម្ពុជាក៏អាចចាប់មេដឹកនាំថៃមួយចំនួនដែលបានឈ្លានពាន និងសម្លាប់ប្រជាជនកម្ពុជាបានដូចគ្នាដែរ។
ច្បាប់ទម្លាប់ត្រូវបានបំផ្លាញដោយពួកឈ្លានពាន។ តើនេះជាគោលបំណងដើម្បីបង្កើតជំនឿទុកចិត្ត និងឈានទៅរកទំនាក់ទំនងល្អឬបំផ្លាញដើម្បីបង្កើតជម្លោះឡើងវិញក្រោយកិច្ចព្រមព្រៀងឈប់បាញ់?"