
สรุป!ดราม่าร้อน "เจ๊ไฝ" ไข่เจียวปู 4,000 เก็บเกินราคาจากเมนู กรมการค้าภายในลุยตรวจสอบ
คมจบให้สรุปประเด็นดราม่าร้อน "เจ๊ไฝ" ไข่เจียวปู 4,000 เก็บเกินราคาจากเมนู งานนี้เจอของจริงกรมการค้าภายในลงพื้นที่ลุยตรวจสอบ
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อีกครั้งสำหรับ "เจ๊ไฝ" เชฟมิชลินสตาร์สตรีทฟู้ดเจ้าของเมนูดัง "ไข่เจียวปู" การันตีความอร่อยด้วย รางวัล 1 ดาว มิชลินสตาร์ (Michelin Stars) คงมาตรฐานคว้าดาว 7 ปีซ้อนซึ่งก่อนหน้านี้ออกออกมาให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึกไลฟ์สไตล์ ว่าไม่ทำร้านต่อ ขอเกษียณ วางตะหลิวปีหน้า ร้านนี้ไม่มีคนสืบทอด ยินดีแจกสูตรพร้อมสอน แต่จู่ๆก็ออกมาบอกว่าไม่ปิดร้านแล้วจะทำต่อ ทำเอาสร้างความสับสนให้ลูกค้าไม่น้อย ไม่ต่างกับดราม่าล่าสุดราคาไข่เจียวปูราคาป้ายติดบอก 1,500 บาทแต่เช็คบิลออกมาคือ 4,000 บาท ซึ่งเป็นราคา VIP แต่เรื่องนี้ก็ต้องรอให้ฝั่งร้านออกมาชี้แจงด้วย
คมจบให้สรุปประเด็นดราม่าร้อนเมื่ออินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่งออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์การทาน ไข่เจียวปู ร้าน เจ๊ไฝ ร้านอาหารสตรีทฟู้ดระดับมิชลินสตาร์ชื่อดัง โดยเธอได้สั่งเมนูยอดฮิตนี้มาทาน แต่เมื่อถึงเวลาชำระเงิน กลับต้องตกใจกับราคาที่สูงถึง 4,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ระบุในเมนูถึงเกือบ 3 เท่าตัว อินฟลูเอนเซอร์รายนี้ระบุว่า ในเมนูของทางร้านมีราคาไข่เจียวปูระบุไว้เพียงราคาเดียวคือ 1,500 บาท ไม่มีราคาอื่นหรือดอกจันใด ๆ เพิ่มเติม ทำให้เธอเข้าใจว่าราคาที่ต้องจ่ายคือ 1,500 บาทตามที่เห็นในเมนู แต่ทางร้านแจ้งว่าราคา 4,000 บาทเป็นราคาของวัตถุดิบคุณภาพสูงกว่า ซึ่งสร้างความสับสนให้กับลูกค้าต่อมาเธอจึงได้นำเรื่องราวนี้มาบอกเล่าต่อผ่านช่องทางโซเชียลของตัวเอง
จากประเด็นนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามในวงกว้างถึงความโปร่งใสในการสื่อสารราคาของร้านอาหาร โดยผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากเห็นด้วยว่าการแจ้งราคาที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของผู้บริโภค ขณะที่หลายคนมองว่า การที่ร้านมาแจ้งราคาที่แท้จริงในขั้นตอนการชำระเงิน เป็นการกระทำที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียความรู้สึก แม้ว่าผู้บริโภคจะยินดีจ่ายเงินก็ตาม แต่การสื่อสารที่ไม่ตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ประเด็นนี้ยังจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงเรื่อง "สิทธิผู้บริโภค" และ "การตั้งราคาสินค้า" โดยมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การวิพากษ์วิจารณ์ราคาสินค้าที่ดูเหมือนจะสูงเกินจริงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทุกคนควรทำได้ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน เพื่อสร้างบรรทัดฐานและป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าในตลาดสูงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผลในอนาคตเรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าในเรื่องความจำเป็นของการสื่อสารราคาให้ชัดเจนและถูกต้อง รวมถึงยังสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคในปัจจุบันตระหนักถึงสิทธิของตัวเองมากขึ้นและพร้อมที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและส่วนรวม
ล่าสุดนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้ กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทางด้าน นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้ยังไม่มีการร้องเรียนโดยตรงมายังกระทรวง แต่เนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ กรมการค้าภายในจึงเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที พร้อมกันนี้ ยังอยู่ระหว่างการประสานงานไปยัง คุณพีชชี่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยจะนำข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายมาพิจารณาว่ามีการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หรือไม่ นายอุดม กล่าวอีกว่า หากตรวจสอบพบว่า ลูกค้าไม่ได้สั่งเมนูพิเศษ แต่ทางร้านจัดทำและเรียกเก็บเงิน จานละ 4,000 บาท เกินกว่าราคาที่แสดงไว้ในเมนู ถือว่าผิดกฎหมายฐาน ขายเกินราคาที่แสดงไว้ มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
ในกรณีที่ร้านอ้างว่ามี “เมนูวีไอพี” ราคาจานละ 4,000 บาทจริง แต่ไม่ได้แสดงราคาไว้ในเมนูให้ชัดเจน ก็จะเข้าข่ายความผิดฐาน ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เช่นกัน กรมการค้าภายในย้ำว่า ร้านอาหารทุกแห่งจะต้องแสดงรายการอาหารและราคาที่แน่ชัดให้ลูกค้าเห็นก่อนสั่ง เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด