ข่าว

ตรวจไม่พบ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายผู้ขับขี่รถ ชน 11 คันรวด บนทางด่วน

ตรวจไม่พบ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายผู้ขับขี่รถ ชน 11 คันรวด บนทางด่วน

17 ส.ค. 2568

ตรวจไม่พบ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายผู้ขับขี่รถ ชนกัน 11 คันรวด บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา ตำรวจเร่งพิสูจน์ทราบ ซิ่งประลองความเร็วหรือไม่

จากกรณีวันที่ 16 ส.ค. 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหาย รวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย

17 ส.ค. 2568 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 
 

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา

อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท ใช้ความเร็วสูง เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุติดต่อกันหลายคันขึ้นในครั้งนี้ ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวนทุกมิติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยมีกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องบนทางด่วนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ มาประกอบสำนวนการสอบสวนด้วย

หากจากการสอบสวนพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เข้าข่ายความผิดฐานแข่งรถในทาง ก็จะดำเนินคดีในข้อหา "ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น" และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
 

ตรวจไม่พบ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายผู้ขับขี่รถ ชน 11 คันรวด บนทางด่วน

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลงานป้องกันปราบปราม ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง ดำเนินการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกองบังคับการตำรวจจราจร ในการร่วมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องบนทางด่วนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร, ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี รับผิดชอบรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องบนทางด่วนในเขตที่ต่อเนื่องจากพื้นที่

กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสืบสวนและสอบสวนทุกมิติ เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดทุกรายได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และตรงไปตรงมา หากการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนและสอบสวนแล้วพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฐานใด ก็จะดำเนินคดีในทุกฐานความผิดที่ตรวจพบ โดยข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการตรวจสอบในครั้งนี้ ซึ่งมีบทบัญญัติของกฎหมายที่มีการกำหนดบทลงโทษไว้อย่างชัดเจน ได้แก่

 

  • การแข่งรถในทาง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 5,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • การเป็น ผู้จัด สนับสนุน หรือส่งเสริมการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ 10,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • พยายามแข่งรถในทาง ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ของความผิดฐานแข่งรถในทาง
  • ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 บัญญัติไว้เกี่ยวกับการริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยศาลมีอำนาจสั่งริบทรัพย์สินที่ผู้กระทำความผิดได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งรถทั้งหมดทุกคันจะต้องถูกเสนอความเห็นของพนักงานสอบสวนยื่นฟ้องต่อพนักงานอัยการให้มีความเห็นต่อศาลให้ริบรถ หากตรวจพบว่าเป็นรถที่ใช้ในการกระทำผิดตามข้อหาดังกล่าวข้างต้น

หากประชาชนพบอุบัติเหตุ พบเห็นหรือมีเบาะแสการแข่งรถในทางสาธารณะ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 หรือ 1599 ทั่วประเทศ , พื้นที่กรุงเทพมหานครแจ้งได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197, พื้นที่ถนนหลวงทั่วประเทศแจ้งได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจทางหลวง 1193

ตรวจไม่พบ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายผู้ขับขี่รถ ชน 11 คันรวด บนทางด่วน