ข่าว

อัปเดตทหาร เหยียบทุ่นระเบิด "ทบ." เตรียมใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง

อัปเดตทหาร เหยียบทุ่นระเบิด "ทบ." เตรียมใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง

12 ส.ค. 2568

อัปเดตอาการ "ส.อ.ธีรพล" เหยียบทุ่นระเบิด ด้าน "กองทัพบก" ระบุ ฝีมือกัมพูชา เตรียมใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง หากสถานการณ์บีบบีงคับ

12 ส.ค. 2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร

ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจน ว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย

ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การใช้อาวุธโดยฝั่งกัมพูชายังคงมีอยู่ตลอดเวลาในช่วงมีข้อตกลงหยุดยิง

 

อัปเดตทหาร เหยียบทุ่นระเบิด \"ทบ.\" เตรียมใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง

ยอมรับว่าพฤติกรรมและการกระทำลักษณะเช่นนี้ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการในมาตรการหยุดยิงอย่างแน่นอน รวมถึงเป็นท่าทีที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาต้องการจะคุกคามฝ่ายไทย ด้วยการใช้อาวุธทางทหารในรูปแบบซ้อนเร้นไม่เปิดเผย ทำให้เชื่อได้ว่ากัมพูชายังคงดำรงความมุ่งหมายที่จะทำร้ายฝ่ายไทยด้วยรูปแบบลอบทำร้ายอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่า ณ ช่วงเวลานี้จะอยู่ในช่วงการตกลงที่จะหยุดยิง ซึ่งต้องไม่มีการใช้อาวุธต่อกันในทุกรูปแบบ

นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นยังสอดรับกันอย่างเป็นระบบโดยเฉพาะจากการที่กัมพูชาไม่ยอมตอบรับข้อเสนอฝ่ายไทย ในเรื่องของทุ่นระเบิดจากการประชุม GBC ในครั้งที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าเรื่องทุ่นระเบิดนี้น่าจะมีการวางแผนใช้กันมาอย่างเป็นระบบเพื่อเจตนานำมาใช้คุกคามทำร้ายฝ่ายไทย

ซึ่งที่ผ่านมากองทัพบกได้ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด และไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่หากสถานการณ์บีบบังคับก็อาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในป้องกันตนเองภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ ในการคลี่คลายสถานการณ์ที่ทำให้ฝ่ายไทยต้องสูญเสียกำลังพลอย่างต่อเนื่อง จากการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและรุกล้ำอธิปไตยของทหารกัมพูชา