
แม่น้องเมย สะอื้น เปิดใจ หลังศาลฎีกา ยืนตามศาลอุทธรณ์ รอลงอาญารุ่นพี่
แม่น้องเมย น้ำตาคลอ เปิดใจ หลังฟังผลคำพิพากษาศาลฎีกา ยืนตามศาลอุทธรณ์ รอลงอาญารุ่นพี่ ธำรงวินัย
22 ก.ค. 2568 เมื่อเวลา 08.00 น. นางสุกัญญา ตัญกาญจน์ พร้อมด้วย นายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ พ่อแม่และแม่ของ "น้องเมย" นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตหลังจากการถูกรุ่นพี่ ธำรงวินัย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 เดินทางมาที่ ศาลทหาร มทบ.12 จ.ปราจีนบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา
นางสุกัญญา กล่าวก่อนเข้าฟังคำพิพากษา ว่า ผ่านมา 8 ปี ที่ตนต่อสู้เพื่อลูก เพราะต้องการให้สังคมเห็นว่า ลูกชายไม่ได้ทำผิดระบบเกียรติศักดิ์ เขาไม่ได้โกหก แม้จะเสียชีวิตแล้ว ซึ่งไม่มีโอกาสได้พูด แต่ยังถูกใส่ร้าย วันนี้จึงขอฟังผลการตัดสินของศาลก่อน หากผลออกมาดี จะช่วยคืนความยุติธรรมให้กับลูกชาย กู้ศักดิ์ศรีให้กับลูกชายด้วย
"ระยะเวลาของการสู้คดี 8 ปี ยังไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากกระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย ไม่เคยเจรจา อีกฝ่ายไม่เคยให้เกียรติครอบครัวเราเลย โดยการสู้คดีที่ผ่านมา ลำพังมาขึ้นศาลทหาร ก็รู้สึกอยู่คนละชั้นกันแล้ว เพราะศาลทหาร พลเรือนไม่สามารถแต่งตั้งทนายความได้ อัยการจะเป็นผู้ดูแลคดี แต่ฝ่ายจำเลยที่เป็นทหารในกองทัพ สามารถตั้งทนายได้ ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย"
นางสุกัญญา กล่าวอีกว่า ครอบครัวยังติดใจประเด็นอวัยวะบางส่วนของลูกชาย ที่ยังไม่ได้รับกลับคืนมา เช่น สมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร ครอบครัวแจ้งความนายแพทย์ที่ผ่าตัดคนแรก แต่ไม่นำอวัยวะมาคืน โดยตั้งข้อสังเกตว่าทำไมตำรวจออกหมายเรียกนายแพทย์คนดังกล่าวถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ออกหมายจับ ทั้งที่นายแพทย์คนนี้ไม่ไปพบพนักงานสอบสวน
หลังจากนั้นครอบครัวประสานขออวัยวะจากโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ก่อนนำไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และทราบผลจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลว่า ดีเอ็นเอเข้ากันไม่ได้ ครอบครัวจึงไม่ได้นำอวัยวะกลับ เพราะไม่ทราบว่าเป็นอวัยวะของใคร
ภายหลังฟังคำพิพากษา นางสุกัญญา ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ผลคำพิพากษา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ ให้จำเลยได้รับโทษ แต่รอการลงโทษ เนื่องจากศาลเห็นว่า จำเลยยังทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้ หากสั่งลงโทษเลย และพ้นจากการรับโทษแล้ว จะประกอบสัมมาอาชีพยาก
ถามว่าโอเคไหม อยากจะบอกว่า การรับโทษของเขาเราโอเค ไม่ได้ขัด แต่มันมีคำถามเล็กๆ กรณีศาลเห็นว่าจำเลยทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ และถ้าลูกพี่มีชีวิตอยู่ เขาสามารถทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ไหม แต่ลูกพี่ไม่ได้มีโอกาสไง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ ศาลฎีกาพิพากษายืน ตามศาลชั้นอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกาย ทำโทษโดยฝ่าฝืนคำสั่งกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทันทีนั้น ศาลเห็นว่าด้วยอายุจำเลยไม่เคยได้รับโทษ การจะลงโทษจำเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท และให้รอลงอาญา 2 ปี