
"พระภาวนาวิริยคุณ" เล่าสาเหตุ โอนเงินให้ "สีกา ก." ยัน ไม่เคยพบหน้า
"พระภาวนาวิริยคุณ" เล่าสาเหตุ โอนเงิน 1.8 แสน ให้ "สีกา ก." ยัน ไม่เคยพบหน้า ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
จากกรณีมีรายงานว่า "พระภาวนาวิริยคุณ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร มีเส้นเงินโอนเงินให้ "สีกากอล์ฟ" จำนวนเงิน 182,200 บาท
14 ก.ค. 2568 พระภาวนาวิริยคุณ เปิดเผยว่า เคยจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ กรุงเทพมหานคร ก่อนจะย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2562 มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด ทั้งด้านกายภาพและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนจุดเริ่มต้นรู้จักกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นในปี 2566 ฝ่ายหญิงได้ติดต่อมาทางแชต ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต พร้อมเอ่ยปากว่า "ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว" จึงขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อปรึกษาโดยตรง จึงให้เบอร์ไป
เมื่อได้พูดคุยกัน สีกากอล์ฟ เล่าว่าตนทำธุรกิจเซรามิค แต่ถูกแฮกบัญชีจนไม่สามารถจ่ายเงินค่าสั่งเครื่องจักรจากต่างประเทศได้ ทำให้ธุรกิจเสี่ยงจะล้มทั้งระบบ มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท พร้อมระบายความทุกข์ใจถึงขั้นคิดสั้น จึงให้กำลังใจด้วยหลักธรรมะ และพยายามปลอบไม่ให้ตัดสินใจทำร้ายตัวเอง ต่อมา สีกากอล์ฟ ได้เอ่ยปากขอยืมเงินก้อนแรก ประมาณ 1 แสนบาท โดยให้เหตุผลว่าจะนำไปประคับประคองธุรกิจไม่ให้ล่ม
พระภาวนาวิริยคุณ บอกว่า คิดอยู่นานว่าจะให้หรือไม่ แต่ในใจคิดว่า หมาหรือแมว เรายังช่วยได้ แล้วนี่คือมนุษย์คนหนึ่ง ถ้าเงินจำนวนนี้สามารถช่วยต่อชีวิตเขาและธุรกิจได้ก็คงเป็นบุญ จึงตัดสินใจโอนเงินให้
หลังจากโอนเงินไป สีกากอล์ฟก็เงียบหายไปกว่า 1 ปี กระทั่งต้นปี 2568 ได้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง อ้างว่าช่วงที่หายไปได้ไปมีครอบครัว และมีลูกน้อย แต่ขณะนี้ถูกสามีทอดทิ้ง ไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้อนมให้ลูกกิน พร้อมส่งภาพลูกที่อยู่ในโรงพยาบาลมาให้ดู รู้สึกสงสารจึงได้โอนเงินช่วยเหลือหลายครั้ง ยอดโอนรวมประมาณ 180,000 บาท
พระภาวนาวิริยคุณ ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่เคยพบหน้าสีกากอล์ฟ ไม่เคยไปหา และฝ่ายหญิงก็ไม่เคยมาหาท่านที่วัด ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ทางเพศ หรือความสัมพันธ์ลึกซึ้งทั้งสิ้น ทุกอย่างเกิดจากความสงสารล้วน ๆ และเพิ่งมารู้ทีหลังว่าภาพผู้หญิงเสื้อสีเหลืองที่อุ้มเด็กในโรงพยาบาล ที่สีกากอล์ฟส่งให้นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟเลย ยินดีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตำรวจเข้าตรวจสอบได้ทุกช่องทาง
"ภาพหรือคลิปที่เขาบอกว่ามีเป็นหมื่น ๆ ภาพนั้น ยืนยันว่าไม่มีผมอยู่ในนั้นแน่นอน ถ้าทางเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูล ผมยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง เพราะไม่ได้ทำอะไรเสียหาย” พระภาวนาวิริยคุณกล่าว และทิ้งท้ายด้วยสุภาษิตไทยที่สะท้อนเจตนาบริสุทธิ์ของการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ว่า "เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด" เพราะทุกบาทที่โอนให้ ล้วนมาจากความสงสาร และเห็นใจในฐานะมนุษย์ร่วมโลกเท่านั้น