
คุมตัว "แพทย์หญิงคนดัง" สั่งซื้อ-ลักลอบขาย ยานอนหลับ ผิดกฎหมาย
คุมตัว "แพทย์หญิง รพ.ตำรวจ" สั่งซื้อ-ลักลอบขาย ยานอนหลับ ผิดกฎหมาย "สธ.-ตำรวจ ปส." ลุยค้นแฟลตฯ พบผู้ดูแล 1 ราย ยาของกลางจำนวนมาก
10 มิ.ย. 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา , กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แฟลตตำรวจแห่งหนึ่ง ย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพฯ
ภายหลังได้รับรายงานจาก นายแพทย์ วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือ ยานอนหลับ หรือยาที่ใช้ในการเสียสาว ทำให้หลับและเคลิ้มไป ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 ซึ่งต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
เบื้องต้น สามารถควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องได้ 2 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.หญิง แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว และ ชายไทยผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ โดยตรวจยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ ที่บรรจุอยู่ในกล่องลัง กว่า 10 กล่อง
ดร.ธนกฤต ระบุพฤติการณ์ แพทย์หญิงคนดังกล่าว เป็นผู้ซื้อแต่เพียงผู้เดียว ในการสั่งกลุ่มยานอนหลับ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยใช้ชื่อคลินิกในเครือข่าย 11 แห่ง ร่วมในการสั่งซื้อ ซึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเป็นคลินิกเวชกรรม ก่อนที่จะนำยามาพักไว้ยังสถานที่จัดเก็บ และจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ส่วนใหญ่นิยมใช้ในกลุ่มวัยรุ่น โดยมักจะนำไปใช้เป็นยาเสียสาว
แนวทางการสืบสวนสอบสวน พบว่า แพทย์หญิงคนดังกล่าว สั่งซื้อยาจาก อย.ตั้งแต่ปี 2565-2568 จำนวน 15 ล้านบาท ทาง อย.เห็นความผิดปกติ จึงมีการพูดคุยกับตำรวจ และตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา เงินหมุนเวียนสูงถึง 80 ล้านบาท โดยแพทย์หญิงคนดังกล่าวเป็นคนสั่งซื้อ และจ่ายเงินเพียงคนเดียว
จุดนี้ที่มีการตรวจค้น พบว่าเป็นอาคารที่พักของราชการตำรวจ ภายในห้องพักมีการเก็บยาของกลางไว้จำนวนมาก พบผู้ดูแล 1 คน เป็นบุคคลธรรมดา จึงมีการควบคุมตัวไว้สอบปากคำ ส่วนแพทย์หญิงเจ้าของห้อง สามารถจับกุมได้ที่บ้านพักคุมตัวไว้สอบปากคำแล้วเช่นกัน สำหรับยาที่พบในห้อง เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 ที่กำกับดูแลโดย อย. หากใช้ผิดวิธีจะเป็นอันตรายต่อสังคม
ด้าน นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ระบุเพิ่มเติมว่ายากลุ่มประเภทดังกล่าว ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมใช้ในสถานพยาบาล ซึ่งทาง อย. สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ว่ายาถูกสั่งซื้อและสั่งจ่ายให้กับผู้ป่วยรายใด
ขณะที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรอง ผบ.ตร. และรองประธานคณะทำงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่ามีการซื้อขายนอกระบบ โดยให้บุคคลภายนอกเข้ามาพักอาศัยภายในอาคารที่พักราชการและจำหน่ายยา นอกจากนี้ยังมีพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้ง DNA ของบุคคลที่สัมผัสกับอุปกรณ์ยา และข้อมูลยาที่สั่งซื้อจาก อย. สามารถเช็คได้ตั้งแต่การสั่งซื้อ การจ่ายเงิน และการส่งยา ซึ่งมั่นใจว่าหลักฐานแน่นสามารถเอาผิดได้
โดยแพทย์หญิงคนนี้จะ มีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา ในการให้สิทธิ์ที่พักอาศัยแก่บุคคลภายนอก , ความผิดตามมาตรา 157 , ร่วมกันครอบครองและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ซึ่งมีโทษแบบเดียวกันกับยาเสพติด), ฟอกเงิน และจะมีการยึดทรัพย์ต่อไป ในส่วนของใบประกอบวิชาชีพจะมีการยื่นให้ทางแพทยสภาในการพิจารณาลงโทษ
เบื้องต้นทั้ง 11 คลินิกมีเจ้าของหลายคน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีหมอ หรือพยาบาลคนไหนมีส่วนร่วมอีกหรือไม่ โดยวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย. 68) จะมีการค้นคลินิกทั้งหมด และจะมีการแถลงข่าวความชัดเจนอีกครั้ง