
"ทวีวัฒน์" หอบหลักฐาน แจงปมเงิน 12 ล้าน ยืนยัน เงินเป็นของตน
"ทวีวัฒน์" หอบหลักฐาน แจงปมเงิน 12 ล้าน ยืนยัน เงินเป็นของตน ด้าน สภ.ปากเกร็ด ระบุ มีหน้าที่แค่พิสูจน์ เงินเป็นของใคร
8 มิ.ย. 2568 ความคืบหน้าเงินสด 12 ล้าน ซุกในลังพลาสติก ล่าสุดวันนี้ นายทวีวัฒน์ (สงวนนามสกุล) เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น
นายทวีวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาแสดงตนหลายเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องการพิสูจน์ลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอ เรื่องที่ 2 คือตรวจสอบการให้ข้อมูลและการขยายผลว่าเงินก้อนนี้มีที่มาอย่างไร ส่วนหลักฐานที่นำมาก็มีไม่มาก เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ส่วนเรื่องที่ 3 ตนจะต้องเดินทางมาให้การอีกครั้งแต่ยังไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัด เพราะหลังจากนี้จะต้องมีการสอบคนที่เกี่ยวข้องอีกเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินตนจริง
"ตนขอยืนยันว่าเป็นเงินของตัวเอง หากไม่ใช่คงไม่เดินเรื่องมาจนถึงวันนี้ และหากพบว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยมิชอบก็ต้องติดคุกเช่นเดียวกัน ตนเป็นทนายความ ทราบเรื่องกฎหมายดี" นายทวีวัฒน์ กล่าว
เมื่อถามถึงหลักฐานที่เป็นคลิปที่ส่งให้นิติของคอนโดนั้น นายทวีวัฒน์ บอกว่า ตนส่งให้ตำรวจไปหมดแล้ว ต่อข้อซักถามว่ากังวลใจหรือไม่ ที่พรรคประชาชนจะเดินทางไปกรมสรรพากร เพื่อให้ตรวจสอบเงินก้อนนี้ นายทวีวัฒน์ ไม่ตอบ พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่าหากมีความคืบหน้าหรือจะต้องเดินทางไปพบกับหน่วยงานใดเพิ่มเติม ค่อยว่ากันอีกครั้ง ก่อนจะเดินฝ่าวงล้อมสื่อมวลชนขึ้นสะพานลอย ไปฝั่งตรงข้าม เพื่อเรียกแท็กซี่กลับคอนโด
พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจ มีหน้าที่พิสูจน์ทราบว่า เงินจำนวน 12 ล้านบาท เป็นของใคร ขณะนี้มีผู้ที่มาแสดงสิทธิ์เพียงคนเดียว จึงต้องทำการพิสูจน์ทราบจากทางธนาคาร ถึงที่มาของเงิน รวมทั้งลายนิ้วมือบนธนบัตร ไปจนถึงหลักฐานทุกอย่างที่รวบรวมมาได้ ส่วนที่มาของเงินว่าจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้ทำการตรวจสอบต่อไป
ส่วนประเด็นที่ถามว่ามีการพบเงินเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ล้านบาทหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจพบภายในห้องพักของนายทวีวัฒน์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะนายทวีวัฒน์ไม่ใช่ผู้ต้องหา แต่ยอมรับว่าเข้าไปตรวจสอบ ยืนยันตามคำให้การของนายทวีวัฒน์ ว่ามีน้ำรั่วซึมภายในห้อง ซึ่งก็ร่องรอยน้ำรั่วจริง