
ปภ. เตือน 36 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม 9-13 พ.ค. 68
ปภ. เตือน 36 จังหวัด เหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ช่วงวันที่ 9 - 13 พ.ค. 2568
8 พ.ค. 2568 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 2 (111/2568) ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 9 - 12 พ.ค. 2568 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และทะเลจีนใต้
ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น
นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แจ้งพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมือง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ระหว่างวันที่ 9 - 13 พฤษภาคม 2568 ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่
- จ.แม่ฮ่องสอน (อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า)
- จ.เชียงใหม่ (อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอจอมทอง อำเภอสะเมิง อำเภอแม่วาง และอำเภอแม่ริม)
- จ.เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สรวย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเทิง และอำเภอพาน)
- จ.ลำปาง (อำเภอสบปราบ อำเภอวังเหนือ อำเภองาว และอำเภอเกาะคา)
- จ.พะเยา (อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูกามยาว อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอเชียงม่วน)
- จ.แพร่ (อำเภอเมืองแพร่ อำเภอสอง อำเภอร้องกวาง และอำเภอหนองม่วงไข่)
- จ.น่าน (อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น)
- จ.อุตรดิตถ์ (อำเภอท่าปลา และอำเภอฟากท่า)
- จ.สุโขทัย (อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอกงไกรลาศ และอำเภอคีรีมาศ)
- จ.กำแพงเพชร (อำเภอขาณุวรลักษบุรี และอำเภอบึงสามัคคี)
- จ.พิษณุโลก (อำเภอวังทอง อำเภอชาติตระการ และอำเภอนครไทย)
- จ.จังหวัดนครสวรรค์ (อำเภอแม่วงก์)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่
- จ.เลย (อำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน อำเภอภูกระดึง อำเภอผาขาว และอำเภอภูเรือ)
- จ.หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอรัตนวาปี)
- จ.บึงกาฬ (อำเภอปากคาด)
- จ.ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสาร อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส)
- จ.มหาสารคาม (อำเภอวาปีปทุม)
- จ.นครราชสีมา (อำเภอคง อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอจักราช และอำเภอพิมาย)
- จ.สุรินทร์ (อำเภอปราสาท อำเภอกาบเชิง และอำเภอสังขะ)
- จ.จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขื่องใน และอำเภอสำโรง)
ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่
- จ.สระแก้ว (อำเภอคลองหาด และอำเภออรัญประเทศ)
- จ.ฉะเชิงเทรา (อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์)
- จ.ชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอศรีราชา)
- จ.จันทบุรี (อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม)
- จ.ตราด (อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง)
ภาคใต้ 11 จังหวัด ได้แก่
- จ.ชุมพร (อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน)
- จ.สุราษฎร์ธานี (อำเภอเกาะสมุย เกาะพะงัน ดอนสัก และอำเภอกาญจนดิษฐ์)
- จ.นครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม สิชล และอำเภอนบพิตำ)
- จ.ยะลา (อำเภอยะหา และอำเภอรามัน)
- จ.นราธิวาส (อำเภอเจาะไอร้อง สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และอำเภอแว้ง)
- จ.ระนอง (อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ)
- จ.พังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า เกาะยาว และอำเภอท้ายเหมือง)
- จ.ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- กระบี่ (อำเภอคลองท่อม และอำเภอเหนือคลอง)
- จ.ตรัง (อำเภอวังวิเศษ)
- จ.สตูล (อำเภอละงู ควนกาหลง และอำเภอทุ่งหว้า)
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง
ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่
- จ.นนทบุรี (อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางกรวย และอำเภอปากเกร็ด)
- จ.ปทุมธานี (อำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวง)
- จ.จังหวัดสมุทรปราการ (อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอพระสมุทรเจดีย์)
- กรุงเทพมหานคร
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทุกเขต โดยติดตามสภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า กรณีพื้นที่เสี่ยงฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
ส่วนกรณีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ขอให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป