เหยื่อไฟรั่วดูดสาหัส ยังไม่รู้สึกตัว พ่อ-แม่ หวังมีปาฏิหาริย์ | คมชัดลึก

จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ค.68 เกิดฝนตกหนักในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมท่วมผิวจราจรหลายเส้นทางทำให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะถนนสายบายพาส หรือสายเลี่ยงเมือง ช่วงบริเวณปั๊มน้ำมันใกล้กับสี่แยกบางใหญ่ มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 ซม.

ระหว่างนั้น น.ส.มัณฑนา หรือ มิ้น อายุ 23 ปี พนักงานบริษัทฯ ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ผ่านมาถึงจุดน้ำท่วมขัง แล้วรถดับ จึงได้ลงเข็น จยย. ผ่านเสาไฟฟ้ารั่ว โดนกระแสไฟดูดจนล้มคว่ำหน้าจมน้ำ กู้ภัยฯ ใช้เวลานานกว่า 30 นาที ลากออกมา CPR ก่อนนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน 

7 พ.ค. 2568 นายปรีชา วิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานี เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจแก่ครอบครัว น.ส.มัณฑนา บริเวณหน้าห้อง ICU3 ชั้น 4 โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยทาง ผอ.แขวงทางหลวง ได้มอบกระเช้า และเงินสดจำนวน 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น

นายปรีชา กล่าวว่า ได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุที่กระแสไฟดูด น.ส.มัณฑนา พบรอยต่อสายไฟภายในเสาไฟฟ้า มีการพันผ้าเทปพันสายไฟแบบลวกๆ ของผู้รับเหมา ถึงกับอุทานออกมาว่า เห็นแล้วหน้าชาเลย ย้ำว่า ที่ผ่านมาทางแขวงฯ ได้สั่งการให้การตรวจสอบป้องกันไฟฟ้ารั่วไหลกันตลอด และช่วงหน้าฝนเส้นทางหลายจุดมีน้ำท่วมขัง

ทั้งนี้ สันนิษฐานว่าผู้บาดเจ็บถูกกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลออกจากบริเวณรอยเชื่อมต่อสายไฟภายในเสา หรืออาจจะรั่วไหลมาจากใต้ดิน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดกันอีกครั้ง
 

ด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ นิลพงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงอาการ น.ส.มัณฑนา ว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสและหนักมาก เนื่องจากร่างกายขาดออกซิเจนไปเป็นเวลานาน ประกอบกับน้ำท่วมปอด ต้องใส่ท่อช่วยการหายใจ และวันนี้จะเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้าห้อง ICU เฉพาะทาง เพื่ออำนวยการรักษาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

นายมงคล และนางอารีรัตน์ พ่อและแม่ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่บอกว่าลูกสาวอาการทรุดหนักกว่าเดิมและไม่รู้สึกตัว ตอนนี้ทางครอบครัวได้แต่พึ่งพาการรักษาของแพทย์ และสวดมนต์ภาวนาพร้อมกับกราบไหว้ขอพรต่อศาลหลักเมืองและศาลพระภูมิเจ้าที่ของโรงพยาบาล ขอบุญกุศลที่ทำมาขอให้ลูกสาวกลับฟื้นกลับมาโดยเร็ว จะสภาพไหนก็รับได้