ข่าว

กองปราบ แกะรอยตามรวบ แอดมินกลุ่ม "ขึ้นเรือ V.4" แจกวาร์ป แลกเอนเกจ

กองปราบ แกะรอยตามรวบ แอดมินกลุ่ม "ขึ้นเรือ V.4" แจกวาร์ป แลกเอนเกจ

07 พ.ค. 2568

กองปราบ แกะรอยตามรวบ 2 แอดมินกลุ่มลับ "ขึ้นเรือ V.4" แจกวาร์ป เรียกเอนเกจเมนต์ ต่อยอดแฝงโฆษณาเว็บพนันออนไลน์

7 พ.ค. 2568 ตำรวจ กก.4 บก.ปคม. นำกำลังบุกจับกุม นายพงศกร อายุ 31 ปี และ นายสิทธิศักดิ์ อายุ 30 ปี ในฐานความผิด "นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันลามกอนาจาร และ ค้า หรือ แจกจ่าย เผยแพร่ ภาพหรือคลิปลามก" พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ PC 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และ สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม โดยจับกุมนายพงศกรได้ที่บ้านพัก ม.15 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง และจับกุมนายสิทธิศักดิ์ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา

สืบเนื่องจากตำรวจ บก.ปคม.  ได้ตรวจสอบพบกลุ่มในแอปพลิเคชั่น Telegram ใช้ชื่อว่า "ขึ้นเรือ V.4" เผยแพร่คลิปโป๊ อนาจาร ที่เป็นลักษณะคลิปแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือ คลิปหลุด โดยที่บุคคลในคลิปวิดีโอไม่ได้ยินยอมให้บันทึกภาพ รวมถึงคลิปภาพยนตร์ลามกทั่วไปแต่แฝงโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ จึงส่งสายแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเพื่อนสืบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบว่า ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นแอดมินของกลุ่มดังกล่าว คือ นายพงศกร และนายสิทธิศักดิ์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ จ.ลำปาง และ จ.พะเยา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้น 
 

กองปราบ แกะรอยตามรวบ แอดมินกลุ่ม \"ขึ้นเรือ V.4\" แจกวาร์ป แลกเอนเกจ

จากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เบื้องต้นพบไฟล์คลิปวิดีโออนาจารจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ภายในฮาร์ดดิสก์เครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือ รวมถึงสมุดบัญชีธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวทั้งสองมาทำการสอบปากคำ

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นแอดมินเพจลามก หรือ แอดมินกลุ่มลับ สื่อสังคมออนไลน์แอปพลิเคชั่นต่างๆ หลายช่องทาง ทั้ง VK, Telegram และ Facebook รวมกว่า 14 กลุ่ม มียอดผู้ติดตามรวมกว่า 5 แสนคน

นอกจากนั้นยังยอมรับว่า คลิปที่นำมาโพสต์เผยแพร่ส่วนใหญ่ ซื้อต่อมาจากกลุ่มลับอื่น ๆ ก่อนนำมาโพสต์เผยแพร่ในเพจหรือกลุ่มตัวเอง เพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามหรือ เพิ่มยอด engagement ทั้งนี้ก็เพื่อนำไปสู่ช่องทางหารายได้จากการรับจ้างโฆษณาเว็บพนันออนไลน์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง และ สภ.เชียงคำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป