ข่าว

เปิดกฎเหล็ก มาตรการควบคุม การลงทัณฑ์ 13 "ท่าการลงโทษ" ของกองทัพบก

เปิดกฎเหล็ก มาตรการควบคุม การลงทัณฑ์ 13 "ท่าการลงโทษ" ของกองทัพบก

09 มี.ค. 2568

กองทัพบก เปิดกฎเหล็ก มาตรการควบคุม การลงทัณฑ์ 13 "ท่าการลงโทษ" ที่มีการบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน

9 มี.ค. 2568 ทีมโฆษกกองทัพบก โพสต์เนื้อหา มาตรการในการควบคุมการลงทัณฑ์ หรือลงโทษกำลังพลของกองทัพบก ที่มีการบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ว่ามีสาระสำคัญอย่างไร ระบุว่า

การปกครองของทหาร ผู้บังคับบัญชามีอำนาจที่จะพิจารณาลงทัณฑ์หรือลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำความผิดได้ เพื่อกำกับดูแลหน่วยทหารในบังคับบัญชาให้มีระเบียบวินัย ตามธรรมเนียมทหารที่ดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทางทหาร ที่มักจะเกี่ยวพันกับความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ ให้บรรลุความสำเร็จ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

อย่างไรก็ตาม อำนาจของผู้บังคับบัญชาในการลงทัณฑ์หรือลงโทษ ต้องมีการพิจารณาใช้อย่างมีจริยธรรม และเหมาะสม ภายใต้กรอบของกฎหมาย รวมถึงระเบียบหรือคำสั่งต่างๆ ที่หน่วยงานได้กำหนดไว้เช่นกัน มิเช่นนั้นก็อาจจะเกิดปัญหาภายหลังได้ เช่น การลงโทษที่เกินกว่าเหตุ จนเป็นข้อร้องเรียนได้

ซึ่งกองทัพบก ได้เล็งเห็นความสำคัญของเรื่องดังกล่าว จึงออกมาตรการควบคุมและป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและแบบธรรมเนียมทหาร ตามคำสั่งกองทัพบกที่ 499/2567 ลง 26 ธ.ค.67 เพื่อให้การลงทัณฑ์หรือลงโทษเป็นไปตามข้อกฎหมาย และมีความเหมาะสมสอดคล้องเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งกองทัพบก ตลอดจนป้องกันการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 โดยมาตรการดังกล่าวมีเนื้อหาสำคัญ ดังนี้

ทำความเข้าใจคำว่า "ลงทัณฑ์" และ "ลงโทษ" มีความหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้

"ลงทัณฑ์" หมายถึง การลงทัณฑ์กำลังพลที่กระทำผิดวินัยตามกฎหมายและหลักเกณฑ์หรือแบบธรรมเนียมที่กำหนด โดยใช้การลงทัณฑ์ 5 สถาน ได้แก่ ภาคทัณฑ์, ทัณฑกรรม, กัก, ขัง และจำขัง

"ลงโทษ" หมายถึง การที่ผู้บังคับบัญชาลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อกวดขันและตักเตือนให้รักษาวินัย แต่ไม่ถึงขนาดที่ต้องใช้การ “ลงทัณฑ์” ทางวินัย และหมายรวมถึง การลงโทษในระหว่างการฝึก และการปฏิบัติภารกิจทางทหารต่างๆ

ซึ่งการลงโทษนั้น กองทัพบกได้กำหนด “ท่าการลงโทษ” ให้ยึดถือปฏิบัติรวม 13 ท่า ได้แก่
 

 

  • 1. ยกเข่าบิดลำตัว (Knee Raise Body Twist)
  • 2. นอนปั่นจักรยานยกแขน (Arm Leg Bicycle)
  • 3. ตั้งศอก (Plank)
  • 4. ลุกนั่งบิดลำตัว (Russian Twist)
  • 5. ก้าวย่อ (Lunge)
  • 6. นอนตะแคงตั้งศอกยกขา (Side Plank Leg Raise)
  • 7. กระโดดตบ (Jumping Jack)
  • 8. ดันพื้น (Push Up)
  • 9. ดันพื้นกางแขน (Push Up Hand Release)
  • 10. แมงมุมแตะสลับ (Spider Man)
  • 11. ปีนเขา (Mountain Climber)
  • 12. วิ่งยกเข่าสูง (High Knee Running In Place)
  • 13. วิ่ง


เปิดกฎเหล็ก มาตรการควบคุม การลงทัณฑ์ 13 \"ท่าการลงโทษ\" ของกองทัพบก

ซึ่งแต่ละท่าจะมีท่าอนุโลมสำหรับบุคคลที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีข้อจำกัดทางร่างกาย และมีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ให้สอดคล้องในแต่ละกลุ่มอายุ รวมถึงโรคที่ห้ามปฏิบัติในท่านั้น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ในการลงโทษ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุม ดังนี้ 

  • ผู้สั่งลงโทษ ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ผู้ควบคุมการปฏิบัติงานหรือการฝึก ผู้ปฏิบัติหน้าที่เวร หรือผู้ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเท่านั้น
  • แต่ละท่าลงโทษได้เพียงครั้งเดียวต่อครั้ง หากลงโทษ “วิ่ง” ให้กำหนด “วิ่ง” เป็นการลงโทษสุดท้าย
  • ลงโทษได้มากกว่า 1 ท่า เมื่อปฏิบัติแต่ละท่าจนครบแล้วต้องให้ผู้ถูกลงโทษพัก 3 – 5 นาที (ตามความเบา – หนัก) จึงเริ่มท่าถัดไป โดยระยะเวลาลงโทษสูงสุดรวมพักต้องไม่เกิน 30 นาที
  • สถานที่ลงโทษต้องเปิดเผย หรือเป็นบริเวณที่มีกล้องวงจรปิด และต้องไม่เป็นสถานที่ลับสายตาหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยผู้สั่งลงโทษต้องอยู่ในสถานที่นั้นตลอดเวลาที่ลงโทษ
  • ห้ามมิให้สั่งลงโทษแก่ผู้ที่เจ็บป่วยเด็ดขาด


จะเห็นได้ว่ากองทัพบกมีการกำหนดรายละเอียดอย่างชัดเจนทั้งในการลงทัณฑ์ และการลงโทษ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีข้อกำหนดที่สำคัญนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ได้แก่

 

  • ผู้บังคับบัญชาต้องกำหนดมาตรการรองรับ และกำกับดูแลหน่วยในสังกัด ให้เป็นไปตามมาตรการนี้ รวมถึงเผยแพร่ทำความเข้าใจ ให้กำลังพลได้รับทราบอย่างทั่วถึง หากพบว่ามีการละเลยการกำกับดูแลถือว่ามีความผิดทางวินัย

 

  • หากผู้บังคับบัญชาหรือกำลังพลพบเห็นการกระทำที่ผิดในการลงโทษหรือลงทัณฑ์ ให้รายงานด่วนต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรง พร้อมแจ้งผู้เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุโดยด่วน หากละเลยให้ถือว่าผิดวินัย หรืออาจเข้าข่ายเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิดอีกด้วย โดยหลังสถานการณ์คลี่คลายให้หน่วยที่เกิดเหตุได้รายงานตามลำดับชั้นจนถึง ผบ.ทบ. ทั้งนี้ที่สำคัญผู้บังคับบัญชาต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้ที่รายงานการกระทำผิดนั้นและพิจารณาให้ได้รับบำเหน็จความชอบ

 

  • ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของหน่วยเกิดเหตุ ให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิด ให้ดำเนินการทางวินัย พร้อมลงทัณฑ์ตามฐานความผิด พร้อมกันนี้ ให้มีการดำเนินการตามมาตรการทางการปกครองควบคู่ไปด้วย เช่น การงดบำเหน็จ หรือการปรับย้าย เป็นต้น ทั้งนี้หากมีการฝ่าฝืนมาตรการจนเกิดผลเสียหายอย่างรุนแรง ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินคดีความตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

  • ให้มีการชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้เสียหาย และครอบครัว พร้อมทั้งให้การดูแล รักษาพยาบาล ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เสียหาย รวมทั้งพิจารณาจ่ายเงินชดเชย ค่าทำขวัญ และให้การช่วยเหลืออื่นๆ อย่างเหมาะสม

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : (คลิก)