
หมอ ร.พ. แม่สอด! ฟาดเดือดขอลาออก ปม! ปัญหาอุ้มศูนย์ผู้อพยพ
ดราม่าเดือด! หลัง "ทรัมป์" ระงับงบ IRC ไทยเข้าอุ้มศูนย์ผู้อพยพ ด้านหมอ ร.พ. แม่สอด สุดทน! ฟาดเดือด เขียนใบลาออก ซัด!เรื่องของการจัดการค่ายผู้อพยพไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขท้องถิ่น แต่มันเป็นเรื่องระดับชาติ!
สถานการณ์หลัง “โดนัลด์ ทัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยุติการสนันบสนุนงบประมาณช่วยเหลือองค์กรต่างประเทศชั่วคราว 90 วัน ส่งผลกระทบต่อค่ายลี้ภัยชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ซึ่งได้รับงบฯ สนับสนุนด้านสาธารณสุขจากองค์กร International Rescue Committee (IRC) ถูกระงับการให้รักษาผู้ป่วยทันที ทางด้าน สาธารณสุขจังหวัดตาก ประชุมรับมือผู้ป่วยจากค่ายลี้ภัยชายแดน คาดมี 4-5 หมื่นคน หลัง “ทรัมป์” ระงับงบประมาณ IRC จัด “5 รพ.ไทย” หมุนเวียนดูแล “ 3 ศูนย์พักพิงฯ” ด้าน ผอ.รพ.อุ้มผาง เผยต้องช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ชง สธ.ตั้งกองทุนขอบริจาคระดับประเทศ
จากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนมองทำไมต้องเป็นภาระให้ประเทศ ทางด้าน แพทย์หญิงณัฐกานต์ ชื่นชม อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลแม่สอด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nuttagarn Chuenchom โดยระบุว่า
" ผู้บริหารบอกว่าให้หมอเบียร์รับตรวจเคสวัณโรคกับเอชไอวีในศูนย์อพยพ เพราะ รพช. ไม่สามารถดูแลได้ จะให้รถโรงพยาบาลไปรับคนไข้เอามาให้ตรวจที่แม่สอด ..โดยไม่ดูภาระงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลยไม่ผิดคาดนะ ที่จะเป็นแบบนี้ เบียร์คิดมาหลายวันแล้ว .. ให้เวลาอีกครึ่งวัน ถ้าผู้บริหารยังไม่เปลี่ยนแนวคิด จะไปเขียนใบลาออกราชการวันนี้แหละ อายุราชการ 20 ปีก็อุทิศตนมามากพอละ ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ไม่ทำเพื่อผู้อื่น บอกอยู่ตลอดว่าศูนย์อพยพเป็นเรื่องของประเทศไทย ไม่ใช่สาธารณสุขท้องถิ่น คนไทยชายแดนเสียประโยชน์มาเยอะแล้ว ได้รับบริการช้า เสียเวลารอนาน ยังต้องแบ่งหมอของพวกเขาไปให้คนอื่นอีกหรอ ส่วนกลางโน่นต้องมาจัดการ"
ทั้งนี้ คุณหมอเบียร์ ยังโพสต์เพิ่มเติมว่า เรื่องของการจัดการค่ายผู้อพยพไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขท้องถิ่น มันเป็นเรื่องระดับชาติ เป็นเรื่องการจัดการของรัฐบาล การแก้ไขกฎหมาย การผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศเดิม ความเห็นของเบียร์คือต้องจัดบุคลากรอีกชุดหนึ่งเพื่อมาดูแลค่ายอพยพ ในช่วงเร่งด่วน แนะนำให้เขาหางบประมาณมาจ้างหมอเมียนมากลุ่มเดิมที่เคยดูแลอยู่แล้วระหว่างรองบประมาณใหม่ แต่เค้าไม่ทำแบบนั้น เค้ามาแบ่งหมอจากโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลทั่วไปไปออกตรวจ จำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดเท่ากับประชากรหนึ่งอำเภอเลย ในระยะยาวต้องพูดคุยเรื่องการแก้กฎหมายผู้ลี้ภัยให้ถูกต้อง และมีการผลักดันกลับประเทศเดิม คนไทยชายแดนเสียสละมามากพอแล้ว ทุกวันนี้บุคลากรก็ไม่พอ คนไข้ก็ต้องรอนาน รอทุกอย่างทั้งรอหมอและรอคิวในการตรวจ บางคนเป็นมะเร็งก็ต้องรอการวินิจฉัยและการรักษา แล้วจะมาให้เค้าเสียสละเพิ่มโดยการแบ่งหมอของพวกเขาไปให้คนอื่นอีกหรอคะ