ลุงวัย 67 เผยเคล็ดลับ ขาย โรตีสายไหมหยอดเหรียญ 1 บาท ส่งลูกเรียนจบปริญญา 2 คน | คมชัดลึก

21 ธ.ค. 2567 บรรยากาศที่ลานกิจกรรมโรงเรียนวัดหัวสำโรง ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา น้องๆ นักเรียน ทั้งเด็กเล็กเด็กโต พากันรุมร้านโรตีหยอดเหรียญ ผู้สื่อข่าวผ่านมาเห็นจึงหยุดสังเกตดูว่าเด็กๆ รุมอะไรกันจึงเข้าไปดูและพบว่าเด็กๆ พากันสลับกันต่อแถว เข้าคิวเพื่อนำเหรียญไปหยอดในตู้ด้านท้ายรถจักรยานยนต์ของคุณลุงคนขายโรตีสายไหม บางคนก็พากันยืนกินกันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะเด็กๆ ผู้ชายค่อนข้างจะเฮี้ยวมากๆ ลุ้นกันอย่างสนุก

เด็กๆ ต่างก็ใช้เหรียญบาท หยอดลงไปในช่องหยอดเหรียญ แล้วลุ้นดูแสงไฟวิ่งหมุนตามเข็มนาฬิกาว่าจะไปสิ้นสุดที่เลขใด บางคนก็ได้ไฟหยุดตรงเลข 1 บ้าง เลข 2 เลข 3 ถึง 9 บ้าง ตามแต่ดวงไฟที่หมุนจะหยุดตรงเลขไหน ซึ่งถ้าหยุดที่เลขไหนก็จะหมายถึงได้โรตีสายไหมกี่อัน ถ้าหยุดที่เลข 1 ก็ได้ 1 อัน แต่หยุดที่เลข 2 – 9 ก็จะได้ตรงตามเลขนั้น จึงทำให้เด็กๆเขาสนุกสนาน 

ผู้สื่อข่าวสอบถาม คุณลุงสุพรรณ รูปเรียบ อายุ 67 ปี เล่าว่าตนได้ยึดอาชีพขายโรตีหยอดเหรียญมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่อายุ 24 ก็เริ่มขายมาจนถึง ปัจจุบันนี้ เดิมจะขี่รถจักรยานแล้วใช้ระบบหมุนวงล้อคล้ายนาฬิกา ตระเวนขายไปตามชุมชน ตามงานวัด 

กระทั่งยุคสมัยเปลี่ยนไปก็ใช้รถจักรยานยต์และเปลี่ยนมาเป็นระบบหยอดเหรียญไฟหมุนแทน แต่ยังคงไว้ในการหยอดเพียง 1 บาท ต่อครั้ง ก็ไม่ได้หวังร่ำรวยอะไร ทุกวันนี้ยอดขายก็จะอยู่ที่วันละหกร้อยกว่าบาท ก็ถือว่าพออยู่ได้มีความสุข ที่สำคัญอาชีพขี่รถตระเวนขายโรตีที่ตนทำอยู่นี้ สามารถสร้างรายได้ส่งลูกเรียนจนจบปริญญามาแล้วถึงสองคนและลูกทั้งสองคนก็มีความกตัญญูส่งเงินให้ตนทุกเดือน

คุณลุงสุพรรณ บอกต่อว่า เดิมคุณลุงเป็นคนจังหวัดระยอง แล้วมามีแฟนอยู่ที่อำเภอสนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา มีลูกสองคนเป็นผู้หญิงทั้งหมดและส่งลูกเรียนจบปริญญาได้ เป็นคุณครูสอนนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งแถวบ่อวิน 1 คน อีกหนึ่งคนมีสามีอยู่กรุงเทพฯ และตนก็ยังจะขายโรตีสายไหมหมุนหยอดเหรียญนี้ต่อไปจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว เพราะมีความผูกพันกับเด็กๆ ลูกค้าทั่วไปและตนถือว่าเป็นอาชีพอิสระที่นับวันจะไม่มีให้เห็นกันแล้ว