
เลิกทำอาชีพนี้ เปิดใจ คนขับรถบัส คันที่ 3 เผย สงสารเด็กๆ ภาพเหตุการณ์ยังติดตา
เลิกทำอาชีพนี้ เปิดใจ คนขับรถบัส คันที่ 3 ในขบวนทัศนศึกษา เผย ภาพเหตุการณ์ยังติดตา สงสารเด็กๆ และหวาดกลัว
4 ต.ค. 2567 นายสานนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี คนขับรถบัสของบริษัทฯ ที่เกิดไฟไหม้ และเป็นคนขับรถบัสคันที่ 3 ในขบวนทัศนศึกษาวันเกิดเหตุ เปิดใจเล่าว่า ตนขับรถให้บริษัทนี้มาประมาณ 2 ปี ก่อนออกเดินทางมีการตรวจเช็ครถเบื้องต้นเสมอ เช่น ลมยาง ประตูทุกบาน รวมถึงประตูฉุกเฉิน และตรวจเช็คว่าถังก๊าซเต็มหรือไม่ ทุกอย่างอยู่ในสภาพใช้งานได้ปกติ นอกจากนี้ เถ้าแก่ยังนำรถไปตรวจตามระยะที่กำหนดเสมอ
นายสานนท์ เปิดเผยว่า รถของตนมีประตูลมที่สามารถปล่อยลมออกในกรณีฉุกเฉิน เพื่อเปิดประตูได้เอง แต่สำหรับรถบัสที่เกิดเหตุนั้น การควบคุมประตูจะต้องทำจากที่นั่งคนขับเท่านั้น วันเกิดเหตุตนขับรถคันที่ 3 เห็นเหตุการณ์รถคันข้างหน้า ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น จากนั้นรถเกิดการสะบัด และเฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ก่อนจะชนกับแบริเออร์จนล้อแบะออกทั้งสองข้าง ทำให้รถเสียการควบคุม จากนั้นไฟก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจากด้านหน้า
หลังรถหยุด คนขับรถคันแรกรีบลงมาช่วย ตนเองก็วิ่งไปช่วยเหลือ และได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟเล็กน้อย ขณะเกิดเหตุ นายสมาน คนขับรถคันที่เกิดเหตุได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กๆ และมาขอถังดับเพลิงจากรถตนเพื่อไปดับไฟ ภายหลังได้ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากเพลาหัก ทำให้ล้อแบะออก และไม่สามารถควบคุมรถได้จนเกิดประกายไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยากจะควบคุม
เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการถอดถังก๊าซที่โคราช นายสานนท์ ยืนยันว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะการขับรถไปโคราชนั้น เป็นไปตามคำสั่งของเถ้าแก่เจ้าของบริษัท และไม่รู้ว่ามีการถอดถังก๊าซ ออกหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้เช็คถังก๊าซ ว่ามีกี่ถัง เวลาขับรถ ดูแค่ไมล์เติมก๊าซเต็มถังเท่านั้น
หลังจากนี้ ตนจะเลิกขับรถทัวร์ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทนี้หรือบริษัทใดก็ตาม เพราะรู้สึกหวาดกลัวและสงสารเด็กๆ ที่ต้องเสียชีวิต ภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา



