เตือน 6 อำเภอ ริมแม่น้ำกก จ.เชียงราย เตรียมรับมือฝนตกหนัก ช่วง 2-9 ต.ค. นี้
โฆษก ศปช.เตือน 6 อำเภอ ริมแม่น้ำกก จ.เชียงราย เตรียมรับมือฝนตกหนัก ช่วง 2-9 ต.ค.นี้ เตรียมยกของขึ้นที่สูง ส่วนการเคลียร์พื้นที่มีการปรับแผนการจัดการขยะ ตั้งเป้า จบภายใน 31 ต.ค.นี้
2 ต.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.30 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่รายงานว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค. 2567
ประกอบกับการติดตามปริมาณฝนของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) พบว่าปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง บางจุดของ จ.เชียงราย สูงถึง 195 มิลลิเมตร และรวมทั้งจะมีบางส่วนตกในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำกก ที่ไหลผ่าน จ.เชียงใหม่ และไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
นายจิรายุ กล่าวว่า จากปริมาณฝนดังกล่าว ทำให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้คาดการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำกก เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวลำน้ำรวม 147.14 ตร.กม. ในพื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ได้แก่
- อ.เมืองเชียงราย (ต.เวียง ต.แม่ข้าวต้ม ต.แม่ยาว ต.ดอยฮาง ต.ท่าสาย ต.นางแล ต.บ้านดู ต.รอบเวียง ต.ริมกก ต.สันทราย)
- อ.เวียงชัย (ต.เวียงเหนือ ต.เวียงชัย)
- อ.เวียงเชียงรุ้ง (ต.ดงมหาวัน ต.ทุ่งก่อ)
- อ.แม่จัน (ต.ท่าข้าวเปลือก)
- อ.ดอยหลวง (ต.โชคชัย ต.ปงน้อย ต.หนองป่าก่อ)
- อ.เชียงแสน (ต.เวียง ต.โยนก ต.บ้านแซว)
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่บางส่วน ยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งก่อน บางจุดการระบายน้ำยังสามารถทำได้จำกัด อาจทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วในช่วงวันที่ 2 – 9 ต.ค. 67 โดยคาดว่าระดับน้ำจะขค้นสูงกว่าตลิ่ง 1.18 เมตร ในวันที่ 4 ต.ค. นี้
"ขณะนี้ ศปช. ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบความั่นคงของคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยง รวมทั้งประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำกกให้ยกของขึ้นที่สูง เพื่อลดผลกระทบจากระดับน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด" นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ ศปช.ส่วนหน้า ติดตามการแก้ปัญหาขยะตกค้างในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งเริ่มส่งกลิ่นรบกวนการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้พบว่า ในพื้นที่ อ.เชียงราย สามารถเพิ่มอัตราการขนขยะจากเดิมอยู่ที่ 1,000 ตัน/วัน เพิ่มเป็น 1,300 ตัน/วัน ส่วนในพื้นที่ อ.แม่สาย ปัจจุบันจัดการขนขยะยังทำได้จำกัดเนื่องจากถูกกลบทับด้วยโคลน จึงมีอัตราการขนขยะอยู่ที่ 100 ตัน/วัน ซึ่งคาดว่าหากเพิ่มอัตราการขนขยะได้เป็น 150 ตัน/วัน จะทำให้ทั้ง 2 พื้นที่ สามารถดำเนินการขนขยะได้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 ต.ค.67
ตอนนี้ในพื้นที่ประสานขอรับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยเทศบาลนครเชียงราย ต้องการรถพ่วง 20 ตัน จำนวน 10 คัน ส่วนเทศบาลตำบลแม่สายต้องการรถแบ็คโฮ 4 คัน และรถตักตีนตะขาบอีก 4 คัน หากทาง ปภ.ประสานได้มาตามจำนวนนี้ เราจะสามารถเคลียร์พื้นที่จบได้ตามเป้า สิ้นเดือนตุลาคม ชาวเชียงรายจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ