“น้องเอ็กซ์” เด็ก 11 สู้ชีวิต หยุดเรียนมาดูแลพ่อป่วยติดเตียง ปู่ย่าทุพพลภาพ
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย น้องเอ็กซ์ เด็กชายวัยเพียง 11 ปี ต้องเป็นเสาหลักของบ้าน ดูแลพ่อป่วยติดเตียง กับ ปู่ย่าทุพพลภาพ ด้วยเบี้ยคนชราและเบี้ยผู้พิการ จนต้องหยุดเรียนต่อเนื่อง
26 ก.ค.2567 น้องเอ็กซ์ เด็กชาย วัย 11 ปี ยอดกตัญญู สู้ชีวิต หยุดเรียน ดูแล พ่อ ป่วยติดเตียง ปู่ย่า ทุพพลภาพ โดยผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายธีระพงษ์ โมราเดช อายุ 43 ปี นายก อบต. บ้านก้อง อ. นายูง จ. อุดรธานี ผู้นำชุมชน และครู ว่า ที่บ้านเลขที่ 82 ม.8 บ้านนาชมภู ต.บ้านก้อง อ.นายูง ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ เป็นครอบครัวที่ ยากจน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 4 คน มี ด.ช.โชคอนันต์ รังกุล หรือ น้องเอ็กซ์ อายุ 11 ปี ต้องหยุดเรียนมาคอยดูแล นายสุขสันต์ รังกุล อายุ 35 ปี พ่อที่ป่วยติดเตียง รวมถึง นายบุญแปลง รังกุล อายุ 63 ปี และน.ส.คำภา พราวงษ์ อายุ 61 ปี ปู่และย่า ป่วยทุพพลภาพ เดินไม่ได้มานับ 10 ปี
โดยในทุกวัน น้องเอ็กซ์ ต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด ก่อไฟหุงหาอาหารมาป้อนพ่อตามอัตภาพ จากเงินคนพิการ และเงินคนชราของปู่และย่า เพื่อประทังชีวิต รวมทั้งคนในหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน ที่สงสารในสภาพความเป็นอยู่ ก็แบ่งปันให้บางวัน
ในการต่อสู้ชีวิต บนความกตัญญูของ น้องเอ็กซ์ ในวัยเพียง 11 ขวบ และทำทุกอย่างให้ผู้ปกครองทั้ง 3 คน เสมือนว่าขณะนี้ น้องเอ็กซ์ เป็นเสาหลักของครอบครัว โดยไม่มีข้อแม้ ต่างจากเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกันในหมู่บ้าน ที่มีเวลาไปเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังเล็กๆ มีสภาพเก่าๆ สร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ มีห้องโถง 1 ห้อง ห้องนอน 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องครัว ในหมู่บ้านที่ล้อมรอบไปด้วยป่าและภูเขา
พบกับ นายธีระพงษ์ โมราเดช นายก อบต. บ้านก้อง พ.ต.ท.ดร.สุครีพ โพธิ์ชัย ครูใหญ่โรงเรียน ตชด. บ้านนาชมภู นายทองอ่อน บุตตะมะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ.นาชมภู พร้อม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนาชมภู เจ้าหน้าที่ อบต.นาก้อง และชาวบ้านบ้านนาชมภู ร่วมกันให้ข้อมูลครอบครัวของน้องเอ็กซ์ รวมทั้งมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือเล็กน้อย
เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดสรรงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของน้องเอ็กซ์ รวมทั้งทุนการศึกษา และต่อเติมบ้านให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูงวัย และผู้ป่วยติดเตียงกับครอบครัวน้องเอ็กซ์
โดยทาง อบต. บ้านก้อง รพ.สต.บ้านก้อง และ ผู้นำชุมชน เป็นผู้ดำเนินการ บางคนให้ข้อมูลไปน้ำตาคลอไป เพราะสงสารสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ โดยเฉพาะน้องเอ็กซ์ ที่วัยเพียง 11 ขวบ ต้องมาแบกภาระดูแลผู้ปกครองที่ป่วยทั้ง 3 คน ไม่มีรายได้เข้ามาเหมือนก่อน
หลังจากพ่อของ น้องเอ็กซ์ ล้มป่วยด้วยโรคไตวาย และปอดติดเชื้อเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้านมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากออกจากโรงพยาบาลนายูง ให้ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านก้อง ดูแลอาการป่วยต่อที่บ้าน ทำให้ น้องเอ็กซ์ ต้องต่อสู้ชีวิตตื่นแต่เช้าทำทุกอย่างให้ผู้ปกครอง ก่อนจะเดินไปโรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร
แต่เมื่อ 3 -4 วันที่ผ่านมา พ่อน้องเอ็กซ์มีอาการทรุดหนัก จึงทำให้ น้องเอ็กซ์ ต้องหยุดเรียน เพื่อมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่น้องเอ็กซ์ก็ไม่เคยปริปากบอกครู และเพื่อนๆที่โรงเรียน ในสิ่งที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ตามลำพัง แม้แต่คำเดียว แถมน้องเอ็กซ์มีจิตใจที่เข้มแข็ง เกินวัย เก็บความรู้สึก และยิ้มสู้กับปัญหาที่เริ่มหนักขึ้นไปเรื่อยๆในอนาคต ที่แทบจะมองไม่เห็นแสงสว่างในการศึกษาเล่าเรียนต่อให้จนจบ ชั้น ม.6 เพื่อต้องการวุฒิไปสอบเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ หรืออยากมีอาชีพเป็น ตชด. เหมือนกับครูในโรงเรียน ที่น้องเอ็กซ์รักและเคารพ และเป็นไอดอลของน้องเอ็กซ์ด้วย
ขณะที่นายสุขสันต์ รังกุล พ่อน้องเอ็กซ์ นายบุญแปลง รังกุล อายุ 63 ปี และนางคำภา รังกุล อายุ 61 ปี ปู่และย่า ดีใจน้ำตาไหล ที่มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งผู้สื่อข่าวที่เป็นสะพานบุญในครั้งนี้ แต่ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา คือ การที่มีบุตรหลานกตัญญูรู้คุณ เข้มแข็ง ไม่เกเร และรู้หน้าที่
ที่น้องเอ็กซ์ทำอยู่ทุกวันกับพวกตนไม่เคยขาดตกบกพร่องเลย พร้อมกับยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงเพื่อขอบคุณที่คนที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้
ด้าน น้องเอ็กซ์ เล่าว่า เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียน ตชด.บ้านนาชมภู หลังจากพ่อป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้านมาประมาณ 1 สัปดาห์ ตนก็ต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อหุงหาอาหารไปป้อนพ่อ เช็ดตัวให้พ่อ ส่วนปู่กับย่าถึงแม้จะเดินไม่ได้ แต่ท่านก็สามารถกินข้าวได้เอง หลังจากนั้นตนก็ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง แต่ทุกครั้งที่ตนป้อนข้าวพ่อ พ่อจะน้ำตาไหลทุกครั้ง
ก่อนที่ตนจะไปโรงเรียนด้วยการเดิน แต่ตนไม่เคยร้องไห้ให้พ่อเห็น เพราะเป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งอดทน และ กลับมาป้อนข้าวพ่อในช่วงกลางวัน ต่อด้วยมื้อเย็น รักพ่อย่าและปู่มาก เพราะแม่ทิ้งตนไปตั้งแต่เล็ก และพ่อหาเลี้ยงตนและปู่ย่าไปวันๆ ด้วยการทำงานก่อสร้าง หลังจากพ่อล้มป่วยลง ก็มีผู้นำชุมชน อบต. รพ.สต. และเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือบ้าง และอนาคตอยากเป็น ตชด. เหมือนกับครูในโรงเรียน
“ตอนไปโรงเรียนเวลาเล่นกับเพื่อนๆ ก็ไม่เคยถามตน เพราะตนไม่เคยบอกในเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตน แม้แต่คุณครูตนก็ไม่เล่าให้ฟัง หลังจากพ่อกลับมาอยู่บ้านได้ 1 สัปดาห์ ตนก็ต้องขาดเรียน จึงทำให้ครูใหญ่รู้ว่าตนต้องคอยดูแลพ่อ ปู่และย่า ที่ล้มป่วยอยู่ที่บ้าน ตนได้เงินไปโรงเรียนวันละ 20 บาทจากพ่อ ที่เป็นเงินคนมาเยี่ยมพ่อที่บ้าน ในใจตนก็รู้สึกท้อแท้ แต่ไม่อยากแสดงอาการออก เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป”
ด้าน น.ส.คำภา พราวงษ์ ย่าน้องเอ็กซ์ เล่าทั้งน้ำตาคลอว่า รู้สึกภูมิใจในตัวหลายชายอย่างมาก ที่เข้าเป็นคนกตัญญู รู้คุณพระคุณพ่อ และปู่ย่า ที่เลี้ยงเข้ามาตั้งแต่ 3 ขวบ ตั้งแต่แม่ทิ้งเขาไป หลานชายทำงานบ้านทุกอย่าง ทำอาหารให้พวกตนได้กินกัน และจะถามว่าวันนี้จะกินอะไร ส่วนมากก็จะเป็นอาหารประเภทไข่ หากพ่อเขาไม่ล้มป่วยติดเตียง ก็คงไม่ลำบากทุกข์ทั้งกายและใจ ทั้งสงสารหลานและมีความถูมิใจในตัวของเขาไปพร้อมกัน ที่เขาต้องแบกภาระดูแลพวกตน
อยากให้คนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือให้เขาเล่าเรียนสูงๆ เป็นตำรวจตามที่เขาตั้งใจไว้ และเขาเคยพูดกับตนว่า เมื่อโตเป็นหนุ่มจะไม่กินเหล้าสูบยา หรือไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพราะมันไม่ดีตามที่ครูสอนไว้
“หากวันใดวันหนึ่ง พ่อของเขาเกิดเป็นอะไรไป ลุงของเขาเคยบอกว่า จะเอาไปดูแลที่ จ.ระยอง แต่เขาก็ไม่อยากไป เพราะอยากอยู่ดูแลปู่และย่าที่บ้าน เพราะมีความผูกพันกันมาก ถึงแม้จะยากจนก็ตาม อยากให้คนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือ หากวันไหนไม่มีพวกตนแล้วเขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร และเป็นห่วงอนาคตของหลานชายมากเลยในตอนนี้”
ขณะที่ พ.ต.ท.ดร.สุครีพ โพธิ์ชัย ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านนาชมภู เปิดเผยว่า การเรียนของน้องเอ็กซ์อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เรียนไปกับเพื่อนๆได้ ตอนอยู่โรงเรียนเขาเป็นคนร่าเริง เล่นและทำกิจกรรมกับเพื่อนปกติ ไม่เคยแสดงออกและพูดให้ฟังเลยว่าเขามีเรื่องทุกข์อะไรอยู่ในใจ แสดงถึงความเข้มแข็งในจิตใจของเขาเป็นอย่างดี ขนาดเราเป็นผู้ใหญ่มาเห็นความเป็นอยู่ของเขาในสภาพนี้ ก็ยังรู้สึกหดหู่ใจเลย แต่น้องเอ็กซ์ไม่แสดงออกให้เห็นเลยว่า เขามีความทุกข์ใจ และท้อแท้อยู่ในขณะนี้ ทั้งที่สภาพครอบครัวเขามีสภาพแบบนี้ หลังจากพ่อที่เป็นเสาหลักครอบครัวล้มป่วยติดเตียง
“กระทั่งมารู้ว่าเขาเริ่มขาดเรียน กระทั่งมาขาดเรียนติดต่อกัน 3-4 วัน จึงทำให้รู้ความจริง ส่วนหน้าที่ของเขาเวลาอยู่ในโรงเรียนก็จะพารุ่นน้องทำกิจกรรมเลี้ยงกบเลี้ยงปลา และทำความสะอาดโรงเรียนในแต่ละวัน ตอนเขาอยู่โรงเรียน จะทำตัวปกติ แต่เวลามาอยู่บ้านทางโรงเรียนก็ไม่รู้สภาพจิตใจเขาเป็นอย่างไร เมื่อก่อนตนสนิทกับปู่น้องเอ็กซ์ ไปมาหาสู่กันประจำ และรู้ว่าปู่และย่าเขาป่วย แต่ด้วยหน้าที่การงานที่โรงเรียนเพิ่มขึ้น จึงไม่ค่อยได้มาเยี่ยมหา หรือมาสัมผัสกับคนในหมู่บ้านก็น้อยลง อยากให้เขามีอนาคต มีอาชีพที่มั่นคง ดูแลครอบครัวได้ อย่างน้อยก็สามารถใช้ชีวิตอยู่รอดในสังคม เขาเคยบอกว่าอยากเป็น ตชด เหมือนครูที่สอนเขา ซึ่งตนก็ว่าอาชีพตำรวจทหารจะเหมาะกับเขามาก เพราะเขามีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งมากกว่าเด็กทั่วไป”
ส่วน นายทองอ่อน บุตตะมะ ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาชมภู เปิดเผยว่า สนิทกับปู่น้องเอ็กซ์ เคยช่วยเหลือและไปมาหาสู่กันประจำ ก่อนที่จะมาล้มป่วยลง ตนก็ได้ประสานทาง อสม. มาดูแลปู่และย่าน้องเอ็กซ์มาโดยตลอด ขาดเหลืออะไรก็ช่วยตามกำลัง กระทั่งพ่อของน้องเอ็กซ์ล้มป่วยติดเตียง และดูท่าครอบครัวนี้จะไม่ไหวแล้ว จะทำอย่างไรครอบครัวนี้ถึงจะไปรอด ความหวังหลายๆอย่างก็ฝากกับท่านนายก อบต.บ้านก้อง ที่เข้ามาดำเนินการประสานส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือในเบื้องต้น แต่อยากให้ทุกด้านเข้ามาช่วยเหลือน้องเอ็กซ์ ที่มีร่างกายไปไหนมาไหนได้เพียงคนเดียว จากคนในครอบครัว 4 คน ที่ต้องมีภาระดูแลผู้ปกครองที่ป่วยทั้งหมด และยังต้องเล่าเรียนหนังสือเพื่ออนาคตของตัวเขาอีก ถือว่าหนักหนามากสำหรับเด็กอายุเพียง 11 ขวบ
“ต่อไปในอนาคต คนที่จะดูแลพ่อแม่ที่ล้มป่วยได้ดีกว่าคนอื่นก็คือลูกหลาน จึงอยากให้เขามีอนาคต มีอาชีพที่สามารถดูแลครอบครัวของเขาได้ ก็อยากให้ทุกภาคส่วนให้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวนี้ ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ก็ดูแลมาตลอด แต่ก็เพียงเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น หรือเป็นการช่วยบรรเทาเท่านั้น รวมไปถึงคนที่ใจบุญทุกท่าน ที่อยากจะช่วยเหลือครอบครัวของน้องเอ็กซ์ด้วย ซึ่งน้องเอ็กซ์ อายุเพียงเท่านี้ สามารถดูแลพ่อ ปู่และย่าที่ป่วยได้ ถือว่าเขาเป็นเด็กที่มีความกตัญญู และเป็นเด็กที่มีจิตใจความเข้มแข็งมาก
เวลาไปเล่นกีฬากับเพื่อนในหมู่บ้าน เขาไม่เคยเอาปัญหาของเขาไปเล่าให้ใครรับรู้เลย หลังจากเล่นเสร็จก็รีบกลับมาดูแลผู้ปกครองที่ป่วยอยู่บ้าน”
ด้าน นายธีระพงษ์ โมราเดช นายก อบต.บ้านก้อง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก ส.อบต. และผู้นำชุมชนบ้านนาชมภู เกี่ยวกับสภาพครอบครัวน้องเอ็กซ์มีความลำบากมาก เบื้องต้นทางอบต.บ้านก้อง ได้ให้การช่วยเหลือผ่านทางกองทุน สปสช. และผู้ป่วยภาวะพึ่งพิง ให้ รพ.สต.บ้านก้อง เป็นคนดูแล ในเรื่องผ้าอ้อม ข้าวสารอาหารแห้งต่างๆ ซึ่งเป็นงบฯที่ไม่มากมายอะไร และมีเพื่อนบ้านที่มีจิตใจบุญมาช่วยเหลือบ้าง
“นอกจากนี้ทางพัฒนาชุมชน อบต.บ้านก้อง ก็ได้ทำเรื่องของบประมาณในการซ่อมแซมบ้านในส่วนของผู้สูงอายุ จำนวน 4 หมื่นบาท และทุนการศึกษาให้น้องเอ็กซ์ จำนวน 2 พันบาท/ครั้ง ในบางจังหวะและโอกาส และวันนี้ทาง ส.อบต.บ้านก้อง ที่ดูแลบ้านนาชมภู ได้ประสานมายัง อบต. และสายข่าวในพื้นที่ จึงมีการลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือในวันนี้
จากข้อมูลครอบครัวน้องเอ็กซ์ ไม่มีรายได้อย่างอื่นเลย นอกจากเงินคนพิการ และเงินผู้สูงอายุ ของปู่และย่า เมื่อเรามาสัมผัส รับรู้เรื่องราว ก็รู้สึกหดหู่ใจ”
นายก อบต.บ้านก้อง เปิดเผยต่อว่า อยากฝากเป็นสะพานบุญถึงผู้ที่ใจบุญ ที่อยากช่วยเหลือครอบครัวน้องเอ็กซ์ หลังได้รับข่าวสารนี้ ก็อยากให้ช่วยกันอีกทาง เพื่อให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ดีขึ้น และที่สำคัญอนาคตของน้องเอ็กซ์ ที่เป็นเด็กกตัญญู ได้มีทุนการศึกษาเล่าเรียนตามที่เขาหวังไว้ คืออยากเป็นตำรวจ ตชด.
และเมื่อมีการบริจาคช่วยเหลือครอบครัวน้องเอ็กซ์ ผ่านบัญชีพ่อของเขาแล้ว ทางเราก็จะตั้งคณะกรรมการหลายๆฝ่าย เข้ามาดูแลอย่างโปร่งใส เพื่อให้ครอบครัวน้องเอ็กซ์ไปต่อได้ในอนาคต ในชื่อบัญชีเงินฝากออม น.ส.คำภา พราวงษ์ โดย นายสุขสันต์ รังกุล ธนาคาร ธกส. สาขา นายูง บัญชีเลขที่ 020171241453