
ชาวบ้านสุดทน หลังถูกงูกะปะกัดหวิดถูกตัดขา หมอบอกงูไม่มีพิษ
ชาวบ้านสุดทน หลังถูกงูกะปะกัด แต่หมอบอกงูไม่มีพิษ ปล่อยกลับบ้านกลางดึก ตัดสินใจบึ่งรถ 70 กม. เข้าเมือง หมอลั่นโชคดีที่มาทัน
ชาวบ้านสุดทน หลังถูกงูกะปะกัดหวิดถูกตัดขา หมอบอกงูไม่มีพิษ ปล่อยกลับกลางดึก ตัดสินใจขับรถรักษาตัวที่ รพ.ในจังหวัด หวิดโดนตัดขา
12 มิ.ย. 2567 สาวรายหนึ่งถูก งูกัดไปหาหมอ และเข้ารักษาตัวที่ รพ.ประจำอำเภอ แต่หมอได้ทำการรักษาเบื้องต้นเสร็จ ปล่อยกลับบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นช่วง เวลา 02.30 น. ผู้บาดเจ็บ ได้ทำการใช้เชือกรัดเหนือแผลที่ถูกงูกัด
ขับรถกว่า 70 กม. เข้าไปรักษาตัว ที่ รพ.ประจำหวัดชัยภูมิ แพทย์ที่โรงพยาบาลบอกโชคดีที่มาทันไม่งั้นอาจถูกตัดขา เพราะงูสายพันธุ์ดังกล่าว ทำรายระบบเลือด จากนั้นจึงได้นำเรื่องราว มาโพสต์ผ่านสื่อโซเชียล พร้อมข้อความระบุว่า
คำตอบง่ายๆ กับชีวิตคน หาคำตอบให้ผมด้วยนะครับ กลัวตายหรือพิการ เมื่อผมได้ค้นดูในโทรศัพท์ว่าพิษมันทำลายเลือดโดยตรง จึงตัดสินใจขับรถมาหาหมอในเมืองเอง ทั้งๆ ที่มีพิษงูอยู่ในตัว ถ้ามันออกฤษธิ์ตอนขับรถอยู่นั้น คงไม่เหลือสักคนหรอกครับ คิดแล้วผมเกียบพาลูกกับเมียมาตาย เสียใจมากครับ
แต่ขอคำตอบหมอ.........ด้วยนะครับ และก็อย่าบอกว่ากล้องเสียนะครับ ผมเอาจริงครับ ถึงไหนถึงกัน กับคำตอบของคุณว่าไม่มีพิษ และผมถามว่างูอะไรก็ตอบไม่ได้ พยาบาลถามผมกลับ ผมบอกว่างูกะปะ แต่เขาตอบมาว่าส่งรูปให้หมอดูแล้วไม่มีพิษ
เอายาพาราฯ และฆ่าเชื้อกลับบ้านได้ ผมไม่ยากให้มีคนต่อไปอีก หาคำตอบให้ผมด้วยนะครับผม บอกว่ากลัวขอนอนหน้าห้องไอซียูได้ไหม? ก็บอกกลับบ้านได้เลย ความจริงอยู่ที่กล้องครับ
โดยผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เผยว่า ตนเป็นชาวบ้าน ในอำเภอหนองบัวระเหว ช่วงค่ำวันที่ 10 มิ.ย.2567 ตนเองได้ถูกงูกัด ที่ข้อเท้าขวา มารักษาตัว ที่ รพ.ประจำอำเภอ แต่ก็ไม่ได้ทำการรักษาที่ดี หมอบอกให้กลับบ้านช่วงกลางดึก จากนั้นตนจึงตัดสินใจขับรถไปรักษาตัวเอง ที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดกลางดึกคืนนั้น และหมอได้ทำการรักษาให้ ซึ่งหากรักษาไม่ทันต้องตัดส่วนที่พิษทำลายทิ้ง
ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ทำการรักษาดีๆ กว่านี้ ซึ่งถ้ารักษาไม่ได้ก็ขอให้ส่งตัวโดยเร็วจะดีกว่า ในวันเกิดเหตุ ถ้าตนไม่ตัดสินใจไปที่ รพ.ประจำจังหวัด ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คงอาจได้ตัดขาก็เป็นได้ เพราะงู กะปะ ถือว่ามีพิษ ทำลาย ต่อระบบเลือด ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้หมอที่ รพ.ในอำเภอ ช่วยดูแลผู้ป่วยหลายอื่นๆ ให้ดีกว่านี้ด้วย