
สาวร้องทุกข์ กิ่งไม้ริมถนนลาซาล หล่นใส่หัวเย็บ 40 เข็ม สำนักงานเขตฯ ไร้เยียวยา
สาวร้องทุกข์ มูลนิธิดัง กิ่งไม้ริมถนนลาซาล ตกใส่หัวแตกเย็บ 40 เข็ม ผ่านมากว่า 1 ปี ไร้เยียวยา เจ้าหน้าที่อ้างไม่ใช่ความผิดของ สนง.เขตฯ
6 มิ.ย. 2567 น.ส.จตุพร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามคดี หลังจากถูกกิ่งต้นไม้ใหญ่ซึ่งปลูกอยู่ริมถนน ซ.ลาซาล 57 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. หักร่วงตกใส่ศีรษะจนต้องเย็บแผล 40 เข็ม ผ่านมานานกว่า 1 ปี แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไร้การเยียวยา
น.ส.จตุพร เล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2566 เวลา 17.20 น. หลังเลิกงานตนได้นั่งซ้อนรถ จยย. ของสามีเพื่อกลับบ้านตามปกติ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณซอยลาซาล 57 ขณะที่สามีขับรถ จยย.ชิดริมถนนใกล้ฟุตบาท จู่ๆ มีกิ่งไม้ขนาดใหญ่หล่นลงมาใส่ศีรษะตนอย่างแรง จนเกือบตกรถ พอเอามือจับที่ศีรษะพบว่ามีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก สามีจึงรีบพาตนไปส่ง รพ. แพทย์เย็บ 40 เข็ม และให้นอนพักรักษาตัวนานกว่า 1 สัปดาห์ มีค่ารักษาพยาบาลกว่า 40,000 บาท
หลังจากออกจากโรงพยาบาลได้เข้าไปติดต่อกับทางสำนักงานเขตบางนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดบอกกับตนว่าจะจ่ายเงินค่าทำขวัญให้ 5,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องจบเรื่องทั้งหมด ไม่มีการแจ้งความหรือเรียกร้องสิ่งใดอีก ตนมองว่ามันไม่คุ้มกับเหตุการณ์ที่เจอมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่ารักษา เงินชดเชยช่วงที่ไม่ได้ทำงานเพราะต้องออกมาพักรักษาตัว หลังแผลหายดีแล้วก็ยังคงมีอาการปวดหัวโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่บ่อยครั้ง จนไม่สามารถทำงานประจำได้ ต้องลาออกจากงาน ตนจึงปฎิเสธไม่รับเงินจำนวนดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกว่า หากตนทำเรื่องเขียนคำร้องเข้ามาเงินเยียวยาต่างๆ อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งตนก็รับได้และคิดว่าจะได้รับภายในปีนั้น แต่ ณ ตอนนี้เวลาผ่านมาแล้วเป็นเวลากว่า 1 ปี ตนยังไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานดังกล่าว หลังจากนั้นตนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่หน้าที่หน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้
โดยสำนักงานเขตฯ บอกว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุประมาณครึ่งชั่วโมง ได้มีรถบรรทุกคันใหญ่ขับเข้ามาเฉี่ยวชนต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลให้ตัวกิ่งของต้นไม้นั้นเกิดความเสียหายและหักลงมาตกใส่ศีรษะของตนในเวลาต่อ จึงเป็นเหตุสุดวิสัยและไม่ใช่ความผิดของทางหน่วยงาน
อีกทั้งทางหน่วยงานยังได้มีการชี้แจงว่า ไม่สามารถติดตามจับผู้ขับรถบรรทุกรายดังกล่าวได้ เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดปรากฏภาพรถคันดังกล่าวไม่มีการติดแผ่นป้ายทะเบียน อย่างไรก็ตามตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบดูแลและรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ผ่านมากว่า 1 ปี ที่ผู้เสียหายรอการช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงจากเจ้าหน้าที่มาตลอด จนต้องมาร้องเรียนให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้ กทม. จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ หากเรื่องเกิดจากมีรถมาเฉี่ยวชนต้นไม้จริงก็ต้องนำภาพวงจรปิดดังกล่าวมาเปิดเผยให้ผู้เสียหายดู ไม่ใช่จะเอาเหตุผลแค่นี้มาปัดความรับผิดชอบ เคสแบบนี้เคยเกิดมาแล้วและศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำสั่งให้ กรุงเทพมหานครต้องเยียวยาผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย. 2567) ตนจะพาผู้เสียหายไปร้องเรียนกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ต่อไป