ข่าว

เช็กวิธีลงทะเบียนซิมการ์ด กับโมบายแบงก์กิ้ง พ้นกำหนด 120 วัน ชื่อไม่ตรงโอนไม่ได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดีเดย์ 27 พ.ค. ลงทะเบียนซิมการ์ด กับโมบายแบงก์กิ้ง กสทช. ย้ำ พ้นกำหนด 120 วัน ชื่อไม่ตรงโอนไม่ได้ หวังตัดวงจรบัญชีม้า-ซิม แนะผู้ใช้งานกด *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า เดิมการเปิดบัญชีธนาคารสามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือ ซิมการ์ด ที่ชื่อไม่ตรงกับชื่อบัญชีธนาคารได้ แต่จากปัญหา "บัญชีม้า-ซิมม้า" ในปัจจุบัน ภาครัฐจึงมีมาตรการใหม่บังคับให้ชื่อโมบายแบงก์กิ้ง และ ซิมการ์ด ต้องชื่อเดียวกัน

กรณีข้อมูลไม่ตรงกันธนาคารจะแจ้งข้อความผ่านโมบายแบงกิ้งว่า ข้อมูลโทรศัพท์ไม่ตรงกับข้อมูลเจ้าของบัญชี ขอให้ผู้ใช้บริการไปลงทะเบียนที่ศูนย์บริการเพื่ออัปเดตชื่อให้ตรงกัน หากข้อมูลตรงกันแล้วจะเปิดใช้งานโมบายแบงกิ้งได้ตามปกติ

แต่ถ้าข้อมูลไม่ตรงกันและพ้นระยะเวลาที่กำหนด บัญชีธนาคารจะใช้ได้ตามปกติ แต่โมบายแบงกิ้งจะใช้งานไม่ได้

ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยมีบัญชีโมบายแบงกิ้ง 106 ล้านบัญชี และมีประมาณ 30 ล้านบัญชี ที่ชื่อไม่ตรงกับซิมการ์ด

สำหรับมาตรการดังกล่าว จะเริ่มต้นวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค. 2567) โดยตั้งเป้าหมายจะต้องปิดหรือระงับบัญชีม้าให้ได้ราว 100,000 บัญชีต่อเดือน จากบัญชีม้าในระบบที่คาดว่าจะมีมากถึง 1 ล้านบัญชี

พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการ บังคับใช้กฎหมายความ ผิดทางเทคโนโลยีฯ เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยมอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผูกกับระบบโมบายแบงก์กิ้งจำนวนประมาณ 106 ล้านบัญชี

โดยระบุว่าชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อจดทะเบียนซิมการ์ด เพื่อสกัดกาารับจ้างเปิดบัญชีม้า ขั้นตอนจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะเร่งดำเนินการ โดยหลักการทำงานในการตรวจสอบนั้นทาง ธนาคารพาณิชย์ และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะเป็นผู้รวบรวมบัญชีมาให้กับ สำนักงาน กสทช. และ ผู้ให้บริการมือถือ (โอปอเรเตอร์) ที่มีฐานข้อมูลรายชื่อการใช้บริการมือถืออยู่แล้ว ในการตรวจสอบว่าตรงกันหรือไม่

"เรากำหนดระยะเวลาให้แล้วเสร็จใน 120 วัน เริ่มจากวันที่ 27 พ.ค. นี้ จากนั้นจะส่งข้อมูลกลับไปให้ทาง ธนาคารพาณิชย์ และ ปปง. เพื่อดำเนินการแจ้งเจ้าของบัญชีที่ไม่ตรง ให้ดำเนินการปรับข้อมูลให้ถูกต้องในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากยังไม่ดำเนินการทางธนาคารและ ปปง. ก็จะพิจารณาวีธีการระงับการใช้งานต่อไป"

ผู้สื่อรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กสทช. ได้โพสต์เฟซบุ๊กแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบเบอร์โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ต้องเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อสกัดกั้นซิมผีบัญชีม้าในระบบการโอนเงินออนไลน์ ระบุว่า 

ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 67 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเริ่มทำการตรวจคัดกรอง หากพบชื่อผู้ถือครองซิมการ์ดโมบายแบงก์กิ้งไม่ใช่เจ้าของบัญชีธนาคาร จะดำเนินการแจ้งเจ้าของบัญชี ให้ดำเนินการเปลี่ยนไปใช้เบอร์ซิมการ์ดที่ตนเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองเบอร์เป็นชื่อตน ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็น เช่น เปิดโมบายแบงก์กิ้งให้บุตรหลานที่เป็นเด็กเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เป็นต้น

แต่หากเจ้าของบัญชีไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลง อาจพิจารณาระงับการใช้งานธนาคารออนไลน์ต่อไป

สำหรับกรณีขอเปิดใช้โมบายแบงก์กิ้งรายใหม่ ธนาคารต้องตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีและเจ้าของเบอร์ต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน

ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. แนะนำประชาชน กด *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก เพื่อตรวจสอบชื่อ เบอร์โมบายแบงก์กิ้งและเจ้าของบัญชีว่าตรงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังจากมีประชาชนเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนล่าสุด กสทช. ได้ปิดการมองเห็นโพสต์ดังกล่าวแล้ว
 

กสทช. ชี้แจง 27 พ.ค. ยังใช้โมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ 

ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ออกเอกสารชี้แจง กรณีข่าวการตรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง (ซิมการ์ด) ที่ผูกกับบัญชีธนาคารต้องตรงกันนั้น ขณะนี้เป็นขั้นตอนอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยในวันที่ 27 พ.ค. 2567 โมบายแบงก์กิ้งยังใช้งานได้ตามปกติ

ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคาร ให้สำนักงาน กสทช. เป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหามิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมออนไลน์

ตามขั้นตอนธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชีพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง แล้วส่งให้ ปปง. จากนั้น ปปง. จะรับข้อมูลส่งต่อให้กับสำนักงาน กสทช. เพื่อให้สำนักงาน กสทช. แยกเครือข่ายก่อนประสานไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ยืนยันอีกครั้งแล้วส่งกลับ

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าว สำนักงาน กสทช. ได้รับการยืนยันจาก ปปง.ว่า หากมีเหตุผลเพียงพอ สามารถอธิบายความจำเป็นในการใช้งานได้ จะเป็นดุลยพินิจของธนาคารให้การพิจารณายกเว้น เช่น

การเปิดโมบายแบงก์กิ้งให้กับบุตรหลานที่เป็นเด็กหรือเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เบอร์องค์กรที่แสดงตัวตนได้ชัดเจน เป็นต้น และในเร็ว ๆ นี้ สำนักงาน กสทช. จะประชุมหารือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการที่ต้องเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองให้ตรงกับโมบายแบงก์กิ้ง ไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนเกินจำเป็น โดยให้มีรายการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์มากที่สุด

เช็กวิธีลงทะเบียนซิมการ์ด กับโมบายแบงก์กิ้ง พ้นกำหนด 120 วัน ชื่อไม่ตรงโอนไม่ได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ