สธ.ออกมาตรการดูแลด้านสาธารณสุขเรื่อง 'ฝุ่น PM2.5' จ.เชียงใหม่
สธ.ออกแถลงการณ์มาตรการดูแลด้านสาธารณสุข กรณี 'ฝุ่น PM2.5' จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดที่มีค่าฝุ่ น PM2.5 มากกว่า 100 มคก./ลบม. สำรวจกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบสูง ให้ความรู้จัดทำมุ้งสู้ฝุ่น พร้อมเร่งผลิตให้ได้ 300 หลัง ภายใน 2 สัปดาห์
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์มาตรการดูแลด้านสาธารณสุข กรณี 'ฝุ่น PM2.5' จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดที่มีค่า 'ฝุ่น PM2.5' มากกว่า 100 มคก./ลบม. โดยระบุว่า จากปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินมาตรการดูแลช่วยเหลือประชาชน ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดที่มีค่า 'ฝุ่น PM2.5' มากกว่า 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ดังนี้
1. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี 'ฝุ่น PM2.5' สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์รายวัน เพื่อสื่อสารถึงประชาชนในการลดความเสี่ยงรับ 'ฝุ่น PM2.5' และออกให้ความช่วยเหลือในพื้นที่
2. ทำการสำรวจกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบสูง ประกอบด้วย กลุ่มเด็ก (0-5 ปี) หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วย (โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังชนิดเฉียบพลัน โรคหอบหืด โรคหัวใจขาดเลือด และผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง) เพื่อติดตามเยี่ยมบ้าน ให้ค แนะนำและเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพ
3. เปิดคลินิกมลพิษ/คลินิกมลพิษออนไลน์ และจัดทำห้องปลอดฝุ่นในโรงพยาบาลทุกระดับ เพื่อให้ผู้ป่วยและกลุ่มเปราะบางได้เข้าใช้บริการ ลดความเสี่ยงการรับสัมผัส 'ฝุ่นPM 2.5' โดยขณะนี้ในจังหวัดเชียงใหม่มีห้องปลอดฝุ่ นรวม1,466 ห้อง (ภาครัฐ 1,408 ห้อง ภาคเอกชน 58 ห้อง) และยังมีห้องปลอดฝุ่นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอีก 416 แห่ง
4. จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกดูแลสุขภาพประชาชนเชิงรุก ให้ความรู้และสนับสนุนหน้ากากอนามัยในการป้องกันตนเอง โดยพื้นที่เชียงใหม่แจกหน้ากากไปแล้ว 153,557 ชิ้น และทุกอำเภอยังได้เตรียมการสำรองเวชภัณฑ์ยา/หน้ากากป้องกันฝุ่นสำหรับผู้ป่ วย เพื่อพร้อมให้การสนับสนุนทันที
5.ถ่ายทอดความรู้การจัดทำ มุ้งสู้ฝุ่น ซึ่งเป็นนวัตกรรมช่วยเพิ่มพื้นที่ปลอดฝุ่นภายในบ้าน และประสานงานอปท. ในการสนับสนุนมุ้งสู้ฝุ่ นให้กับผู้ป่วยยากไร้ในทุกพื้นที่ โดยจังหวัดเชียงใหม่จะเร่งผลิตให้ได้ 300 หลัง ภายใน 2 สัปดาห์ขณะที่จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 1 และ 2 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ จะเร่งผลิตเพิ่มเติมอีก 600 หลัง ภายใน 2 สัปดาห์นี้เช่นกัน
6.กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกับราชวิทยาลัยและสมาคมวิชาชีพเวชกรรม กำหนดแนวทางการตรวจ คัดกรองความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมนำกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษามะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกก่อนโรคจะลุกลามต่อไป