ข่าว

'รมช.คมนาคม' ิรับมือ 'สงกรานต์' ตรวจเข้ม พนง.ขับรถ จัดจุดตรวจสภาพรถ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'รมช.คมนาคม' เตรียมความพร้อม 'สงกรานต์ปี 67' ระดมทุกหน่วยให้บริการเดินทางแบบไร้รอยต่อ พร้อมตรวจเข้ม พนง.ขับรถ เช็คสภาพรถ ตั้งจุดบริการประชาชน

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายและเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ภายใต้ชื่อ “Smart Seamless เชื่อมรถ ต่อราง สะดวกเดินทาง สร้างความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์” โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด เข้าร่วมงาน โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์แผนการดำเนินมาตรการของการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลฯ ของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัด
 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 คาดการณ์ว่าประชาชนเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2567 รวม 7 วัน มีปริมาณผู้โดยสาร 2.05 ล้านคน-เที่ยว รถบขส. 772,730 คน รถไฟระหว่างเมือง 645,600 คน ท่าอากาศยาน 629,365 คน เพิ่มจากเทศกาลสงกรานต์ ปี 66 23.95% ซึ่งรัฐบาล นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชน เพื่อให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยและลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย อุบัติเหตุ ต้องเป็น “ศูนย์” บริการระบบขนส่งสาธารณะให้เข้าถึงง่าย เพียงพอไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา ไม่ทิ้งผู้โดยสาร และทันกับเหตุการณ์ รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเชื่อโยงระบบการขนส่งสธารณะ เพื่อตอบโจทย์นโยบายสะดวก สบาย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ

โดยวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อมาตรการอำนวยความสะดวกความปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ทั้ง ทางบก ทางราง บขส. และ ขสมก. กำหนดจุดจอดและปรับปรุงทางเชื่อมที่มีความสะดวก สบายมากขึ้น จัดพื้นที่จอดรถแท็กซี่ (TAXI) และระบบการบริหารจัดการเพื่อให้สอดรับกับความต้องการในแต่ละช่วงเวลาลดปัญหาการจราจรติดขัดภายในและภายนอกสถานี อีกทั้ง เตรียมการให้รถโดยสารสาธารณะทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สนับสนุนการทำหน้าที่ Feeder เชื่อมสถานีรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและระบบการจราจรภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ได้มีการปรับรูปแบบการจราจร พื้นที่จอดรถ ชานชาลาสำหรับรถขาเข้า ขาออก ในสถานีขนส่งผู้โดยสารให้มีระบบการจราจรที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ การบูรณาการร่วมระหว่างหน่วยงานเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชนประกอบด้วย ผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตรวจการ บขส. เจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ ขสมก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพเข้ามาหลอกลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนภายในสถานนีขนส่งผู้โดยสาร
 
 
การยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน ตรวจเข้มความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถแบบ 100% ตาม Checklist ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร 123 แห่ง จุดจอด จำนวน 55 แห่ง จุดตรวจความปลอดภัย (Rest Area) จำนวน 13 จังหวัด 16 จุด และจุด Checking Point จำนวน 26 จังหวัด 28 จุด ทั้งก่อนให้บริการและระหว่างเส้นทางการเดินทางผ่านจุด Checking Point ทั่วประเทศ ตรวจสอบความเร็วสถานะการเดินทางของรถทุกคันผ่านศูนย์ GPS ของกรมการขนส่งทางบกตลอด 24 ชั่วโมง และหากพบการกระทำผิดให้มีการพิจารณาลงโทษตามกฎหมายทันที 

 

ทั้งนี้ กรณีรถโดยสารประจำทางที่เป็นรถสองชั้นทุกคัน รวมถึงรถโดยสารไม่ประจำทางที่นำมาขออนุญาตกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อวิ่งร่วมกับเส้นทางรถโดยสารประจำทาง (รถเสริม) ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบก ภายในวันที่ 7 เมษายน 2567 หากพบรถไม่พร้อมให้สั่งพ่น "ห้ามใช้" ทันที เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางสูงสุดของประชาชน

 

ด้านอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและสถานศึกษาในเขตพื้นที่ จัดตั้งศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน (Fix it Center) จำนวน 104 จุดทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่นและสายรอง โดยจุดบริการดังกล่าวจะให้บริการตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย ให้ความช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก (บางพื้นที่) บริการนวดผ่อนคลาย บริการผ้าเย็น น้ำดื่ม ข้อมูลเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว และรายชื่ออู่รถที่เปิดให้บริการ เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้เป็นการให้บริการ “ฟรี” ไม่คิดค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 และตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ

ตรวจความพร้อมรับมือเทศกาลสงกรานต์

ด้านอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ รฟท. เพิ่มจำนวนเที่ยวรถให้สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้บริการของประชาชน เปิดให้มีการจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน เพื่อให้ประชาชนมีเวลาวางแผนการเดินทางได้เพิ่มมากขึ้น และให้ รฟม. รฟฟท. พิจารณาตารางเวลาการให้บริการให้สอดรับกับการเดินทางของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางโดยใช้ระบบสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น

 

ขณะที่กรรมการรักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวว่า บขส. ประสานความร่วมมือ รฟท. ใช้พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 เป็นจุดขึ้นรถ สำหรับ ผู้โดยสาร รถบขส. ที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเส้นทาง เหนือ-อีสาน ทุกมาตรฐาน ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 – 22.00 น. ของการเดินทางในวันที่ 9 – 11 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร มีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เก้าอี้พักคอย ไฟส่องสว่าง ติดป้ายประชาสัมพันธ์ ป้ายบอกทางต่าง ๆ รวมทั้ง ได้มีการจัดการจราจร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย


กิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ