ข่าว

แพทย์หญิงหลั่งน้ำตา ขอสามีคืน เจ็บเจียนบ้าญาติฝ่ายชายกีดกันรักเกือบ 2 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วาเลนไทน์ปีนี้ วันแห่งความรักไม่มีช่อดอกไม้ ! แพทย์หญิงชื่อดังหลั่งน้ำตาคิดถึงสามีที่เป็นอาจารย์หมอ หลังครอบครัวฝ่ายชายกีดกันไม่ให้พบหน้านานเกือบ 2 ปี

วันที่ 13 ก.พ. 67  ที่บ้านพักแห่งหนึ่งเชิงสะพาน พระราม 5 ถนนนครอินทร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแพทย์หญิง (สงวนชื่อ) อายุ 55 ปี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยา ว่าให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง หรือคนกลางติดตามตัวสามีซึ่งเป็นนายแพทย์ชื่อดัง อายุ 64 ปี หรืออาจารย์หมอประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ที่

 

โดยแพทย์หญิงได้จดทะเบียนสมรสแต่งงานกันมากว่า 25 ปี และถูกทางครอบครัวฝ่ายสามีนำตัวไปโดยไม่บอกกล่าว ทำให้ตนเองได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถติดต่อสามีได้เลยโทรศัพท์มือถือก็เปลี่ยนเบอร์ ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับมา นานเกือบจะ 2 ปี แล้ว
 


แพทย์หญิง กล่าวทั้งน้ำตาว่า สามีถูกพี่ชายนำตัวไปตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 65 โดยบอกว่าจะมารับตัวสามีไปทานข้าวแล้วก็หายไปเลย โดยไม่บอกตนว่าอยู่ไหน ตลอดเวลาเราอยู่กันอย่างมีความสุขไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันเลยแม้สักครั้งเดียว

 

ตนออกตามหาตลอดเวลา ทราบว่าคุณหมอผู้เป็นสามีไปอยู่กับพี่ชาย ที่คอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาทุกวันนี้ ตนก็ไม่ได้ทำงานต้องหยุดงานในระยะยาว เพราะไม่มีใจในการทำงานการเป็นหมอรังสีวินิจฉัย ต้องมีความละเอียดอ่อน รอบคอบ เกรงว่าหากทำงานไปจะผิดพลาดขึ้นมาได้

 

ตนอยากให้ครอบครัวคืนสามีหมอมาให้ตน เพราะตนเป็นห่วงเขามาก พ่อแม่สามีเสียไปหมดแล้ว หากฝ่ายญาติเขาระแวงคิดว่าตนจะไปข้องแวะแตะต้องสมบัติของตระกูล ตนยืนยันเลยว่าไม่เคยคิดแบบนั้น ตนเองมีเงินมากพอที่จะกินใช้และดูแลสามีไปได้ตลอดชีวิต แม้ตอนนี้จะหยุดทำงานทั้งสองคนเราก็ยังมีเงินที่จะพอกินพอใช้ไปตลอด จึงไม่เคยคิดสนใจในทรัพย์สมบัติของครอบครัวของสามีเลย

ตนบอกกับตัวเองเสมอว่าทุกวันนี้ตายไม่ได้ เพราะสามีไม่มีใครแล้ว ตนและสามีมีความรักให้กันทุก ๆ วัน สามีเคยให้ดอกไม้ทุกปีไม่เฉพาะวันวาเลนไทน์ บางโอกาสในบางวันสามีก็เซอร์ไพรส์ให้ดอกไม้มาเสมอ

 

ตลอดเวลาที่อยู่กินกันมา 25 ปี ตนออกไป ทำงานที่ รพ.สามีก็จะทัก LINE มาตลอด ส่งข้อความมาว่า คิดถึงนะ, ทานข้าวกัน, รักมากนะ แม้กระทั่งวันที่ สามีหายไปก็ยังบอกรักตนเองอยู่เลย

 

ตนทราบจากคนใกล้ชิดว่าสามีของตนเองทุกวันนี้มีสภาพไม่ต่างจากซอมบี้ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อยากจะได้ตัวสามีกลับมา อยากจะรักษาเขาให้กลับมาเหมือนเดิมมีศักยภาพในการรักษาดูแลคนไข้ ไม่ใช่เป็นคนหลง ๆ ลืม ๆ 

 

ทุกวันนี้ตนไม่กล้ากลับเข้าไปในบ้านหรูที่อยู่กันมา 2 คน นานนับหลาย 10 ปี เพราะไม่สามารถรับสภาพจิตใจที่กลับบ้านไปแล้วต้องอยู่คนเดียว คิดถึงภาพอดีตรักที่หวานชื่น

 

ตนต้องไปอาศัยอยู่ที่วัดเพื่อนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ ฝึกใจให้เข้มแข็งและพูดกับตัวเองเสมอว่าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้เพื่อหาทางช่วยหมอสมชัยผู้เป็นสามี หากตนไม่เข้าวัดนั่งสมาธิสงบจิตใจป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้ว ตนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนและสามีทำไมถึงเป็นเช่นนี้ แพทย์หญิง กล่าวทั้งน้ำตา

ทางด้าน ทนายความรับมอบอำนาจจาก แพทย์หญิง เผยว่า เบื้องต้นได้ดำเนินการยื่นฟ้องพี่ชายของสามีและ รพ.ในเรื่องของการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวที่กักขังเอาไว้ และอีกประเด็นเป็นเรื่องของการเรียกค่าไถ่ มีการพูดถึงทรัพย์มรดกไปทั้งที่แพทย์หญิงได้พูดถึงไปแล้วว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย

 

ส่วนเรื่องการหายตัวของสามี แพทย์หญิงแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน

 

ทางทนายมองว่าเรื่องนี้เกินกว่าที่ทางญาติจะเข้าไปยุ่งเรื่องทรัพย์มรดกของส่วนตัวคุณหมอและทรัพย์สินสมรสของส่วนตัวคุณหมอไม่ควรเกี่ยวข้องหรือมายุ่งตรงนี้ ทางทนายเลยดำเนินเรื่องนี้ไปด้วย

 

ส่วนทางญาติของสามีไม่ได้มีการติดต่อมากับทางทนายว่าจะมีการเจรจาพูดคุยกันอย่างไร ตอนนี้ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ว่าสามีของแพทย์หญิงหายตัวไปเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ส่วนในเรื่องคดีอื่น ๆ ยังไม่มีการแจ้งความ โดยแจ้งความไว้ที่ สน.มักกะสัน เมื่อปี65 ตั้งแต่เกิดเรื่อง

logoline