ข่าว

ตำรวจบ่น ยกเลิกครูเวร ลั่น เฝ้าโรงเรียนไม่ใช่หน้าที่ ควรให้เบี้ยเลี้ยงด้วย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ บ่นอุบไม่ใช่หน้าที่ หลังครม.ยกเลิกครูเวร ชี้หากเฝ้าโรงเรียนต้องให้เบี้ยเลี้ยงเป็นกำลังใจ โฆษก ตร. ย้ำ แค่ดูแลความปลอดภัย ไม่ใช่เข้าเวรแทน

ยกเลิกครูเวรกี่โมง แฮชแท็กร้อนบนโลกออนไลน์ ซึ่งมีเสียงของประชาชนเรียกร้องให้ยกเลิกการอยู่เวรของคุณครูทั่วประเทศ ภายหลังจากมีรายงานข่าวว่าครูถูกทำร้ายขณะอยู่เวรที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเขียงราย ซึ่งต่อมามีมติ ครม. ยกเลิกการอยู่เวรของครูในโรงเรียน และสถานศึกษาทั่วประเทศ มีผลทันที 23 ม.ค.67 เป็นต้นไป 

 

ภายหลังการประกาศมติ ครม. ดังกล่าว ได้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์อีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ใช้งานเฟวบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่มของเพื่อนตำรวจ ระบุว่า “ล่าสุดจะให้ตำรวจไปเฝ้าโรงเรียนแทนครูแล้ว ถ้ามีคำสั่งลงมาก็ต้องไปแหละ แต่ก็อยากให้มองอีกมุมหนึ่ง ตำรวจชั้นประทวนไม่ค่อยมีเวลากับเงินหรอก เอาเวลางานไปทำนั้นนู่นนี่ที่ ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ก็ควรจะให้เบี้ยเลี้ยงที่เหมาะสมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย”

 

ตำรวจ ครูเวร

 

ต่อมาสมาชิกของกลุ่มได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ดังกล่าว บางรายระบุว่า ทุกภารกิจ ได้ดีก็แต่คนสั่ง ทั้งเงินทั้งงาน, เหนื่อยกับความคิดนายว่ะ, ทำไมไม่จัดสรรกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ไม่ดีกว่าหรือส่องมันให้ทุกซอกทุกมุมในร.ร. ให้ผอ.ควบคุมตรวจตรากล้องอยู่บ้าน มีไรผิดปกติก็แจ้งตำรวจพื้นที่ได้หนิครับ จะโยนหน้าที่ของตัวเองให้เพื่อนทำไม ดูตำรวจทำทุกหน้าที่ เกินเวลา โอทีไม่เคยได้ แต่ไม่บ่นสักคำ, เขาหวังดีคะอยากให้ครูได้ผัวตำรวจ555, แบบนี้ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เขาแล้วใช้กันมั่วไปหมด

ขณะเดียวกัน โฆษก ตร.เผย ตำรวจได้รับหนังสือขอความร่วมมือดูแลความปลอดภัยโรงเรียนแล้ว  ไม่ใช่การไปเข้าเวรแทนครู เป็นการบูรณาการร่วมตรวจหลายฝ่าย ซึ่งรอความชัดเจนในการประชุมหารือ กำหนดแนวทางทำงานร่วมกัน ย้ำตำรวจมีหน้าที่โดยตรงดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนอยู่แล้ว แต่คงต้องร่วมหลายฝ่ายทำงาน 

 

ตำรวจบ่น ยกเลิกครูเวร ลั่น เฝ้าโรงเรียนไม่ใช่หน้าที่ ควรให้เบี้ยเลี้ยงด้วย

 

ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมอบหมายให้ฝ่ายป้องกันปราบปราม ไปประชุมหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดรูปแบบการทำงานร่วมกันในการดูแลความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับครู อาจารย์ นักเรียนต่อไป

 

โดยคงมีการหารือการแก้ปัญหาระยะสั้นในการออกตรวจตราของตำรวจ ร่วมกับ อปพร. อาสาสมัครชุมชน หมู่บ้าน รวมทั้งปัญหาระยาวในการเรื่องการติดตั้งกล้อง CCTV การเพิ่มงบประมาณต่างๆ เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมยั่งยืนต่อไป

 

คงต้องยอมรับว่าตำรวจทั่วประเทศมีเพียง 1,400 กว่าสถานีตำรวจ ขณะที่โรงเรียน สถานศึกษา มีหลายหมื่นแห่ง กำลังตำรวจเพียงหน่วยเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ต้องอาศัยความร่วมมือหลาย ๆ ภาคส่วน โดยเฉพาะ อปพร. อาสาสมัครชุมชน หมู่บ้าน ที่ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอเรียนให้พี่น้องตำรวจและประชาชนได้ทราบว่า การทำหน้าที่ดังกล่าว ไม่ใช่การไปเข้าเวรประจำโรงเรียนแทนครู ซึ่งรูปแบบแนวทางการทำงาน การปฏิบัติหน้าที่จะเป็นอย่างไร คงต้องรอความชัดเจนของการประชุมหารือร่วมกัน

 

อย่างไรก็ตาม หน้าที่การรักษาความสงบเรียบร้อย การดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน เป็นหน้าที่โดยตรงของตำรวจอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะสถานศึกษา สถานที่ราชการอื่นๆ แม้กระทั่งบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ตำรวจก็ต้องเข้าไปตรวจตราดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในส่วนของสถานศึกษาคงจะมีการกำหนดเพิ่มความเข้มในการดำเนินการ ตามแนวทางที่จะต้องมีการหารือกับกระทรวงศึกษา และกระทรวงมหาดไทยต่อไป เพื่อบูรณาการร่วมปฏิบัติ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ