เปิดนาทีหนีตายจากราง 'รถไฟฟ้าสายสีชมพู' ร่วงหล่น เสียงดังสนั่นคล้ายรถชน

จากกรณี รางเหล็ก "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" หลุดจากราง และตกใส่รถยนต์ ได้รับความเสียหายหลายคัน และยังเกี่ยวเสาไฟฟ้าแรงสูง จนเสียหายอีก 1 ต้น เหตุเกิดหน้าตลาดกรมชลประทาน ถนนติวานนท์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

นายวัลลภ ศรีกล่อม อายุ 21 ปี เจ้าของรถกระบะไททัน สีดำ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ราง "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" ร่วงหล่น  และเป็นผู้ได้รับความเสียหายถูกรางรถไฟฟ้าสายสีชมพู ตกใส่  เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้นำรถมาจอดเอาไว้ในบริเวณดังกล่าว ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. โดยตนได้นอนอยู่ในรถ พร้อมกับลูก รวม 3 คน กระทั่งสังเกตุเห็นน็อต ร่วงหล่นลงมา จึงเงยหน้าขึ้นไปดู และพบว่ารางของรถไฟฟ้า ได้หลุดลงมาเป็นทางยาว เมื่อเห็นดังนั้น จึงรู้สึกตกใจมาก จึงรีบพาลูกหนีออกจากรถ แล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปในตลาด จากนั้นรางของรถไฟฟ้า ได้หลุดลงมาทับหลังคารถ จนรับความเสียหาย และกระจกด้านข้างและท้ายรถแตก

ทางด้าน นายนพดล คชานันท์ อายุ 36 ปี พ่อค้าทิชชู เจ้าของรถอิซูซุ. ซึ่งได้รับความเสียหายเช่นกัน กล่าวว่า ได้นำรถมาจอดในบริเวณจุดเกิดเหตุช่วงเวลา ตี 4 กระทั่งเกือบจะตี 5 ก็ได้รับแจ้งจากเพื่อนที่เป็นพ่อค้าเช่นกันว่า รางรถไฟฟ้าสายชสีชมพู ได้ร่วงหล่นลงมาทัยรถ ซึ่งขณะเกิดเหตุกำลังจัดของขายอยู่ ไม่เห็นตอนรางรถไฟฟ้าถล่มลงมา แต่ได้ยินเสียงดังมาก โดยรถได้รับความเสียหาย หลังคายุบ กระจกแตก

"เหตุการณ์นี้ มันไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะก่อนที่จะมอบงาน ต้องมีวิศวะกร ตรวจสอบให้ดีก่อน ลองนึกถึงตอนที่มีผู้โดยสารนั่งอยู่บนตู้รถไฟฟ้า ถ้าตกลงมาจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวคิดว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะปล่อยทิ้งไปไม่ได้ หากรางตกลงมาในช่วงเวลาที่มีพลุกพล่าน หรือมีชาวบ้านเยอะๆ เชื่อว่า จะต้องมีคนเสียชีวิตอย่างแน่นอน และโครงการใหญ่ขนาดนี้ น่าจะมีความปลอดภัยมากกว่านี้"

ทางด้าน น.ส.วนิดา มริบุตร อายุ 43 ปี คนเห็นเหตุการณ์ภรรยาเจ้าของรถอิซูซุ กล่าวว่า ขณะที่กำลังช่วยแฟนขายกระดาษทิชชู ช่วงประมาณ เกือบตี 5  ได้ยินเสียงดังมาก ดังมาจากทางไปแคราย เหมือนกับเสียงกระชากเป็นทางยาว  จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไร พังถล่มลงมาดังโครม ตอนแรกตนคิดว่ารถชน แต่เมื่อหันมามอง ก็คิดว่า เป็นสายไฟหล่นลงมาพาดบนหลังคารถ  ด้วยความตกใจ จึงรีบวิ่งมาดูรถ และพบว่า รถของตนถูกรางรถไฟฟ้าทับ จนหลังคายุบ