‘พิพัฒน์’ มอบ ‘ของขวัญปีใหม่ให้แรงงาน' 11 ชิ้น เช็กรายละเอียดได้ที่นี่

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวของขวัญปีใหม่กระทรวงแรงงาน ปี 2567 หัวข้อ “เพิ่ม ฟรี ปรับขึ้น สะดวก ช่วยปลดหนี้” ภายใต้แคมเปญ “อุ่นใจผู้ให้ สุขใจผู้รับ”

 

 

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานและได้สั่งให้ทุกกระทรวงมอบของขวัญที่จะมอบให้ประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นกำลังใจให้กับแรงงานไทนทั้งในประเทศและที่ไปทำงานต่างประเทศ โดยกระทรวงแรงงานมีของขวัญ 11 ชิ้น อาทิ

 “เพิ่ม”อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน 6 สาขาอาชีพ 54 สาขา“ปรับขึ้น”อัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ “ฟรี”กู้เงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ดอกเบี้ย 0% จำนวน 24 เดือน

 

 

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงผลงานตลอด 3 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่งรมว.แรงงาน ว่า ได้แก้ปัญหาให้กับพี่น้องแรงงานไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น เช่นการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบในอิสราเอลให้ได้รับเงินเยียวยา และเสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานอิสระ พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมคุ้มครองคุณภาพชีวิตแรงงานอิสระเข้าถึงสิทธิพื้นฐานความปลอดภัยในการทำงาน ครอบคลุมถึงการสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 และมาตรา 39 เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการคุ้มครองแรงงาน

 

 

ขณะเดียวกัน นายพิพัฒน์ ยังได้เปิดโครงการ “ตรวจเช็คให้ฟรี ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจทุกเส้นทาง” ซึ่งเป็นโครงการของ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่มอบเป็นของขวัญให้กับ แรงงาน นายจ้าง และ ประชาชน ที่ใช้รถใช้ถนนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ รถจักรยนต์ และ ความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยอื่นๆ

 

 

โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกจังหวัด จะตรวจเช็คสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 10 รายการก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 22-28 ธันวาคม 2566 ประกอบด้วยตรวจเช็คสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กิจกรรมนวดเพื่อผ่อนคลาย กิจกรรมซ่อมรถยนต์รถจักรยานยนต์ และกิจกรรมแนะนำรถยนต์ไฟฟ้า

 

 

ของขวัญปีใหม่ให้แรงงาน 11 ชิ้น มีรายละเอียดดังนี้ 

 

 

1.เพิ่มอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน 6 สาขาอาชีพ 54 สาขา ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 โดยจะมีผลบังคับใช้ใน 90 วัน หลังประกาศ 

 

 

2.การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ ซึ่งมีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่อาจจะมีการปรับอีกครั้งในการประชุมครั้งถัดไป โดยจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ลงในรายละเอียดถึงระดับอาชีพ ระดับอำเภอ ว่าจะมีการปรับโครงสร้างค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งหนึ่ง

 

 

3.ให้กู้เงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมร้อยละ 0 ต่อปี เป็นเวลา 24 เดือน โดยงวดที่ 25 จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อไป 

 

 

4.ตรวจเช็กสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ฟรี 10 รายการ ในระหว่างวันที่ 22-28 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเดินทาง 7 วันในเทศกาลปีใหม่ เปิดให้บริการเวลา 09.00 -16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ การตรวจ 10 รายการ ได้แก่ ล้อ/ลมยาง ระบบเบรก กรองอากาศ ระบบไฟเลี้ยว/ไฟสัญญาณ ใบปัดน้ำฝน ระบบปรับอากาศ น้ำยาฉีดกระจก แบตเตอรี่ น้ำกลั่น พวงมาลัย/แฮนด์/แตร

 

 

5.การฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัล การตลาดออนไลน์ และภาษาต่างประเทศผ่านออนไลน์ ไม่มีค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000 สิทธิ และได้รับวุฒิบัตรรองรับผ่านการฝึกอบรมฯ จากกรมพัฒนาฝีมือแรงาน (กพร.) 

 

 

6.โครงการเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ วงเงินกู้สูงสุดสหกรณ์ละ 10 ล้านบาท กู้ได้ไม่เกินคนละ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ต่อปี สำหรับสัญญากู้ชำระภายใน 1 ปี และร้อยละ 2.50 ต่อปี สัญญากู้ชำระภายใน 3 ปี 

 

 

7.อบรมผู้รักษาความปลอดภัย ฟรี 10,000 คน สามารถลงทะเบียนได้ในเดือน ธันวาคม 2566 และเลือกหน่วยฝึกอบรมภาคีเครือข่ายที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการแรงงาน (กสร.) ที่จะมีกำหนดอบรมในเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ลดอุบัติเหตุจากการทำงาน

 

 

8.ตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ ผู้ประกันตนสุขภาพดีถ้วนหน้า เริ่มให้บริการในวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการดูแลส่งเสริมป้องกันโรคในผู้ประกันตน โดยได้มีการหารือกับโรงพยาบาลตามสิทธิว่าจะจัดให้มีรถโมบายเคลื่อนที่ไปยังสถานประกอบการเพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการรับบริการอย่างทั่วถึง โดยพิเศษในปีนี้ จะมีการเพิ่มเรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คัดกรองมะเร็งลำไส้ คัดกรองมะเร็งเต้านม ตรวจค่าสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังเพิ่มเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ในทุกกลุ่มอายุ

 

 

9.ผู้ประกันตนทำฟันฟรีด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ที่จะไปถึงสถานประกอบการ (SSO Mobile e – Dent) บริการฟรีไม่ต้องสำรองจ่าย จะเริ่มวันที่ 1 มกราคม-วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมเป็นเวลา 3 เดือน 

 

 

10.บริการประกันสังคมครบจบในแอพพลิเคชั่นเดียว “SSO Plus+” ซึ่งจะเปิดให้บริการวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อให้กับสถานพยาบาล นายจ้าง สามารถยื่นเอกสารได้ผ่านแอพพ์

 

 

11.ติดตั้งระบบรายงานจุดเสี่ยงอันตรายด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยและประเมินความเสี่ยงขั้นต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2567 โดยสถานประกอบการต้องมีระบบข้อมูลที่ใช้สำหรับติดตั้ง และมีเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี (IT) สามารถติดตั้งในรูปแบบ Web-Based Application ดูแลระบบได้ และมี เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ระดับเทคนิคขึ้นไป