ผุดศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ 2 จังหวัด สกัด 'ช้างป่า' ออกนอกเขตอนุรักษ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกาะติดปัญหา "ช้างป่า" หลังเป็นประเด็นยาวนาน ระหว่างคนกับช้างป่า ตั้งศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ ปราจีนบุรี , บุรีรัมย์ อำนวยการแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการในการผลักดันช้างป่า กลับสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหา "ช้างป่า" ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนช้างป่า รวมกันมากกว่า 4,013 - 4,422 ตัว กระจายอยู่ในป่าอนุรักษ์ 69 แห่ง จากการรุกขยายพื้นที่เมืองและพื้นที่การเพาะปลูกเข้าสู่พื้นที่ป่า จึงเกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างช้างป่าและมนุษย์
ทั้งนี้ พล.ต.อ. พัชรวาท พยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา "ช้างป่า" ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เข้ามาในพื้นที่หากินของประชาชนในหลายพื้นที่ อาทิ ต.วังท่าช้าง อ.
กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รวมถึง ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ โดยได้สั่งการให้ตั้งศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการในการผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อป้องกันช้างป่าออกมานอกพื้นที่ทำลายพืชผลเกษตร รวมถึงบ้านเรือนประชาชนเสียหายหรือทำร้ายประชาชนจนเสียชีวิต
ในขณะที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่า ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าในพื้นที่ รวมถึงสร้างคูกันช้างป่า รอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จัดทำทุ่งหญ้า แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และโป่งเทียมในพื้นที่ ขณะเดียวกันจะมีการเร่งรัดของบกลาง สำหรับจัดจ้างราษฎรในพื้นที่ เพื่อเป็นชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า รวมถึงจัดสร้างสถานที่ควบคุมพฤติกรรมช้างป่าและจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาราษฎรที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ จะมีการสำรวจประชากรช้างป่า โดยการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาจากต่างประเทศ พร้อมทั้งขอให้กำหนดมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาช้างป่า เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนด้วย รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ