ข่าว

ขนลุก'วิโรจน์' ชำแหละประเทศไทย ทุจริตคอร์รัปชันสูง แตะ 3 แสนล้านต่อปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขนลุก'วิโรจน์' ชำแหละประเทศไทย ทุจริตคอร์รัปชันสูง แตะ 3 แสนล้านต่อปี มองประเทศตกหลุมดำ ระบบอุปถัมภ์-ไม่โปร่งใส-ใช้กฎหมายปิดปาก ลั่น 'เศรษฐา' เรียกข้าราชการไปนั่งด่าก่อนขึ้นเครื่องไม่ช่วยอะไร ด้าน 'ณัฐพงษ์' จี้นายกฯ เข้าร่วมสมาชิก OGP เป็นรัฐบาลโปร่งใสภายใน 2 ปีให้ได้

ที่พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวประจำสัปดาห์ในหัวข้อก้าวไกล Policy Watch ชำระปัญหา-เสนอทางแก้คอร์รัปชัน

 

 

โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า หลายคนคงไม่ทราบว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งมูลค่าการทุจริตคอรัปชั่นมีมูลค่าสูงถึง 3 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ 1 ปี

 

 

ดังนั้น หากเราจะจัดการเงินทุจริตนี้ สามารถเอาเงินมาอุดหนุนเด็กยากจนได้ถึง 3 ช่วงอายุ หรือหากเปรียบเทียบกับเบี้ยผู้สูงอายุ ก็เทียบได้เป็น 3 เท่า นี่เป็นภัยร้ายที่ตนเห็นแล้วรู้สึกขนลุก

 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การรัฐประหาร ทำให้สถานการณ์แย่ลง แผนปฏิรูปประเทศเป็นเพียงกระดาษปึกหนึ่งเท่านั้น ที่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย นอกจากนี้ ระบบอุปถัมภ์ยังหยั่งรากลึกจนแก้ไม่ได้อีกด้วย การปล้นทุจริตคอร์รัปชันจากผู้ประกอบการ ทำให้ประเทศด้อยลง ถ้าเกิดประเทศเต็มไปด้วยคอร์รัปชัน หากนักลงทุนต้องจ่ายเงินสีเทา จ่ายเงินใต้โต๊ะ เราจะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้อย่างไร เราจะกระตุ้นให้คนในประเทศที่มีความคิดสร้างสรรค์กล้าลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้อย่างไร ถ้าสังคมนี้เต็มไปด้วยระบบอุปถัมภ์และระบบผูกขาดที่ทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจและมีกฎหมายหนุนหลังให้ทุนผูกขาดมีความได้เปรียบ

 

 

ไทยติดหลุ่มดำ 9 หลุม

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าประเทศวนเวียนอยู่กับหลุมดำ 9 หลุม ได้แก่

  1. ระบบอุปถัมภ์ และการซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งเป็นปฐมบทแห่งการคอร์รัปชัน
  2. การขาดความโปร่งใส และอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูล
  3. กฎหมายปิดปาก การคุกคามสื่อ และการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
  4. การใช้อำนาจขององค์กรอิสระ ที่ขาดการตรวจสอบถ่วงดุล
  5. กฎหมายที่ล้าสมัย ที่เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ
  6. การบังคับใช้กฎหมายอย่าง 2 มาตรฐาน การตั้งชงทำนิติสงครามกับคนที่คิดต่าง
  7. ความไม่จริงจังในการบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามคอร์รัปชัน
  8. การตอบสนองต่อการทุจริตคอร์รัปชันที่ล่าช้า ไม่ยอมรับความจริง จับได้แต่ราชการชั้นผู้น้อย
  9. การที่สังคมมองว่าการรีดไถ ส่งส่วย เป็นเรื่องปกติที่ต้องยอมรับ

 

นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากประเทศไทยยังอยู่ในระบบนิเวศแบบนี้ ประเทศไทยไม่มีทางดีขึ้นได้เลย ปัจจุบันปัญหาคอร์รัปชันประเทศไทย การโกง แทรกซึมอยู่ทุกอณูจนเป็นรากฐานของปัญหาที่ร้ายแรงของสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอาชญากรรม ธุรกิจผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น จีนสีเทา และมาเฟียข้ามชาติ

 

 

คอร์รัปชันในไทยมี 4 ประเภท

นายวิโรจน์ ยังแบ่งการคอร์รัปชันในประเทศ ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ การซื้อขายตำแหน่ง , การเรียกรับส่วย , การใช้ช่องทางทางกฏหมายและดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ในการรีดไถ และ การล็อกสเปก

 

 

“ผมเรียนท่านนายกรัฐมนตรี ว่าต้องแก้ไขที่โครงสร้าง ตลอดจนแก้ไขข้อกฎหมายที่ล้าสมัยคู่กันไป ด้วยมีการดำเนินนโยบายและตรากฎหมายที่ส่งเสริมความโปร่งใส คุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง” นายวิโรจน์ กล่าว

 

 

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ตัวอย่างที่สามารถทำได้เลย เช่น การจัดการ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง , พ.ร.บ.โรงแรม , พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง , พ.ร.บ.มาตรการการฟ้องปิดปาก เป็นต้น

 

 

"สภาพของความขึงขัง เรียกข้าราชการไปนั่งบ่นนั่งด่า ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน หรือเรียกจัดอีเวนต์ในการปราบปราม อย่างดีที่สุดก็ทำให้การทุจริตคอร์รัปชันหายไปช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก สิ่งโสโครกเหล่านี้ก็จะผุดกลับขึ้นมาใหม่ ด้วยวิธีการที่แยบยล ตรวจสอบได้ยากกว่าเดิม ที่สำคัญกว่านี้จีนสีเทา มาเฟียข้ามชาติ ธุรกิจผิดกฎหมาย ก็จะมาลงหลักปักฐานที่ประเทศไทย การรีดไถเก็บส่วยก็จะมีเต็มบ้านเต็มเมือง โจษจันกันไปยังทั่วโลก ขัดขวางการลงทุนในธุรกิจทุจริต ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

 

 

ถ้าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น New S Curve จะเป็นอย่างไร เราอยากให้ New S Curve เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นพนันออนไลน์หรือไม่ ถ้าบ้านเมืองยังเต็มไปด้วยคอร์รัปชัน ผมกังวลว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศต้องสาปที่ไม่มีการพัฒนาได้ดีกว่านี้ หรือประเทศที่พัฒนาแต่ได้แค่นี้” นายวิโรจน์ กล่าว

 

 

ขณะที่นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้เกือบ 90 วันในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว วันนี้หมดเวลาฮันนีมูนแล้ว เรื่องที่ตนจะพูดเป็นเรื่องงงบประมาณ โดยที่ผ่านมา มีคนบอกว่าพรรคก้าวไกลระบุว่าฝั่งรัฐบาลส่งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 หรืองบ 67 มาสภาล่าช้า แต่เราเข้าใจดีว่าเป็นผลมาจากการเลือกตั้ง ทำให้วาระนี้นี้จะถูกพิจารณาในช่วงวันหยุดปีใหม่ 

 

 

ตนมีข้อเสนอแนะว่างบ 67 นายกรัฐมนตรีสามารถอาศัยกลไกของพรรคร่วมรัฐบาล เลื่อนกำหนดพิจารณาวาระงบประมาณปี 67 ซึ่งตนมั่นใจว่าไม่สายเกินไป และไม่กระทบกับการบังคับใช้ เพราะจะได้มีเวลาให้ฝั่งสภา สื่อมวลชน และประชาชนได้มีเวลาตรวจสอบ มองว่าประชาชนควรมีส่วนร่วมในการพิจารณางบด้วย

 

งบทำฝายเอลนีโญ่ ส่อทุจริตหรือไม่?

ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการวัดดัชนีการจัดทำงบประมาณเปิดก็อยู่ในอันดับท้ายๆ จาก 120 ประเทศ ในการสำรวจของ International Budget Partnership หรือ IDP โดยเป็นหน่วยงานสากลที่ทำผลสำรวจการทำงบประมาณเปิดเผยต่อสาธารณะ และในงบประมาณปีนี้ มีข้อน่าสังเกตว่าอาจมีการทุจริตหรือไม่ที่งบประมาณจัดทำฝายเอลนีโญ่ จำนวน 2 พันล้านบาท จำนวน 4,000 แห่ง ที่มีการตั้ง ชง อนุมัติภายใน 1 เดือน

 

 

นายณัฐพงษ์ ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ประกาศเข้าร่วมเป็นสมาชิกรัฐบาลโปร่งใส OGP หรือ Open Government Partnership ภายใน 2 ปี ที่ตนเชื่อมั่นว่าทำได้

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ