บิ๊กโจ๊ก' เผย ‘แรงงานไทยจากเล่าก์ก่าย’ พบผู้ต้องหา ‘บัญชีม้า’ เพียง 4 ราย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมตัวแทน กระทรวง พม. - แรงงาน - กทม. ร่วมตรวจเยี่ยมศูนย์คัดแยก ‘แรงงานไทยจากเล่าก์ก่าย’ พบ ผู้ต้องหาบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพียง 4 ราย เหยื่อค้ามนุษย์ 36 ราย เตรียมกลับคืนสู่ครอบครัว 51 ราย
วันที่ 26 พ.ย. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วยตัวแทน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(กระทรวง พม.), กระทรวงแรงงาน และกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีคนไทยที่เป็นผู้ประสบภัยจากเหตุภาวะสงครามในประเทศเมียนมา หรือ ‘แรงงานไทยจากเล่าก์ก่าย’ จำนวน 266 คน ที่สามารถช่วยเหลือกลับมาได้ และเข้าสู่กระบวนการคัดแยกที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า NRM ที่ตั้งภายในศูนย์การเรียนรู้กรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาทรัพยากรบุคคลกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก
เบื้องต้น การคัดกรอง ‘แรงงานไทยจากเล่าก์ก่าย’ เสร็จสิ้นไปบ้างส่วนแล้ว โดยคัดแยกออกเป็น 5 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 มี 6 คน เป็นบุคคลที่มีหมายจับ ซึ่ง 4 ใน 6 เป็นบัญชีม้า ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้ต้องหาคดีอื่นๆ
กลุ่มที่ 2 จำนวน 98 ราย เป็นกลุ่มที่ไม่เข้าข่ายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
กลุ่มที่ 3 จำนวน 51 คน คัดกรองแล้วและเตรียมส่งกลับภูมิลำเนา
กลุ่มที่ 4 จำนวน 75 คน เป็นกลุ่มที่ยังรอการตรวจพิสูจน์ และ...
กลุ่มที่ 5 จำนวน 36 คน เป็นบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า มี 2 พื้นที่ในเมียนมา คือ เมืองแผน มีคนไทยประมาณกว่า 100 คน และเมืองเล่าก์ก่าย ประมาณ 10 กว่าคน ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานให้การช่วยเหลือ
ส่วนคนไทย 41 ที่ช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้ ที่ศูนย์พักพิงจังหวัดเชียงราย ยังอยู่ระหว่างการคัดแยก โดยหลังจากนี้ ทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนเป็นข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการนายทุนจีนสีเทาหรือไม่ รวมถึงขบวนการคอลเซ็นเตอร์ด้วย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า บุคคลที่ส่งกลับบ้านไปแล้ว หากการตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีในภายหลัง เพราะจะมีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว และยังมีรายงานว่า มี 4-5 คน ใน 5 กลุ่ม ที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลให้กลับ แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ยังลักลอบไปประเทศเมียนมา ออกไปอีกจากการไปทำงานที่ประเทศเมียนมาอีก
แม้ว่า ที่ผ่านมาจะสามารถจับได้เพียงบัญชีม้า แต่กลุ่มที่เป็นตัวการคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะคนที่คุยกับผู้เสียหาย อย่านิ่งนอนใจ เพราะทีมสืบสวนสามารถเช็กประวัติการโทรศัพท์ และเส้นทางการเงินได้ทั้งหมด ว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร และเมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้มาจะไปขอหมายจับสากลส่งไปยังทางการจีน
“เร็วๆ นี้ตนเองจะเดินทางไปยังขอความร่วมมือกับหน่วยงานของจีนที่ดูเรื่องนี้”
ด้านเจ้าหน้าที่ พม. บอกว่า ภายหลังกระบวนการสืบสวนและคัดแยกแล้ว จะตรวจสอบว่ากลุ่มเหยื่อ มีความประสงค์ที่จะอยู่ในการดูแลของกระทรวง พม. หรือไม่ หรือประสงค์ที่จะกลับบ้านซึ่งหากกลับบ้าน ซึ่งจะส่งต่อให้กับ พม.จังหวัด ให้ไปดูแลตามสิทธิ์พวกเงินกองทุนเงินสินไหมต่างๆ
มีรายงานจากกระทรวงแรงงานว่า เบื้องต้น แรงงานทุกคน ที่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่มีใครที่ผ่านกระบวนการจัดหางานของกระทรวงแรงงานเลย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังพูดถึงกรณีขอทานแก๊งชาวจีนที่มีการขยายผล คาดว่าอาทิตย์หน้าจะทราบข้อมูลว่ากลุ่มขอทานชาวจีนเข้ามาไทยได้อย่างไร และจะไล่ตรวจสอบทั้งหมด ถึงผู้ที่ให้การสนับสนุน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลอื่นว่า คนไทยที่ให้ความร่วมมือนั้นเป็นใคร เพื่อติดตามตัวมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย