ข่าว

ผบ.ทล. แจงกำลังพล 6  นาย พัน 'ส่วยสติ๊กเกอร์'  ปูดภรรยารองผู้การนครปฐมรู้เห็น

ผบ.ทล. แจงกำลังพล 6 นาย พัน 'ส่วยสติ๊กเกอร์' ปูดภรรยารองผู้การนครปฐมรู้เห็น

06 มิ.ย. 2566

รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.) สรุปภาพรวมล่าสุดจากการปัญหากำลังพลตำรวจทางหลวงเข้าไปหาผลประโยชน์จาก "ส่วยสติ๊กเกอร์" ข้อมูล ณ เวลานี้ด้วยกัน 6 ราย เตรียมขยายผลต่อไปยังด่านชั่งน้ำหนักเพื่อไล่บี้ขบวนการ ผู้ว่ากทม. - วิโรจน์ คุยกับสนุกปัญหาส่วยกทม.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว     ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.) เปิดเผยว่า   ในการประชุมสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีกำลังพลตำรวจทางหลวงเข้าไปหาผลประโยชน์จากกิจการขนส่ง จนเกิด "ส่วยทางหลวง" และ "ส่วยสติ๊กเกอร์ " ล่าสุดผลสรุปในเวลานี้ พบมีเจ้าหน้าที่รวม  6 นาย  เข้าไปเกี่ยวข้อง
กระบวนการจากนี้   จะเรียกตัวให้มาช่วยราชการภายใน 1 - 2 วันนี้ และหากพบพยานหลักฐานทำความผิดทางอาญาชัดเจนก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอน

 

 


สำหรับพฤติการณ์ของตำรวจชุดนี้จากเรื่อง  "ส่วยสติ๊กเกอร์"   ยังไม่ขอเปิดเผย แต่เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำจากผู้เสียหาย ที่ให้การเป็นประโยชน์และเข้าข่ายความผิด และเชื่อว่าจะมีผู้กระทำความผิดมากกว่า 6 นาย  ขอเวลาให้ชุดสืบสวนดำเนินการรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน   "ผลการตรวจสอบข้อมูลการรับส่วยของแต่ละกองกำกับการของ ตำรวจทางหลวง ได้ส่งผลรายงานมาให้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และชุดสืบสวนที่ตั้งขึ้น ก็จะตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย โดยวันนี้ยังได้ให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบ ตามสถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศกว่า 50 จุด โดยเฉพาะด่านช่างน้ำหนัก ที่เคยมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการรับส่วยสติกเกอร์ ซึ่งจะตรวจสอบย้อนหลังถึง 2 ปี และให้รายงานผลมาโดยเร็ว" 

 

 

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ   กล่าวว่า  กรณีภรรยาของรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ทำสติกเกอร์จำหน่ายให้กับรถบรรทุก ชุดสืบสวนมีข้อมูลแล้ว แต่เป็นอีกส่วนที่จะสืบสวนคู่ขนานกัน ซึ่งในชุดสืบสวนนี้จะตรวจสอบในหน่วยของตำรวจทางหลวงไปก่อน ขณะที่ตำรวจยังรอข้อมูลจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล และผู้ประกอบการขนส่ง ส่งข้อมูลมาให้ร่วมตรวจสอบกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 8 มิ.ย. จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลก็จะนำมารวมกันกับชุดสืบสวน และจะส่งเรื่องมาให้ตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ดำเนินคดีต่อไป 

 

 

 

ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร  นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร  อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม. จากพรรคก้าวไกล  ปัจจุบันเป็นว่าที่สส.พรรคก้าวไกล   ได้หารือร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  โดยบรรยากาศของการพูดคุยเป็นไปแบบเป็นกันเอง    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมาช่วยปราบส่วยกทม.หรือไม่   นายวิโรจน์ ตอบว่า มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะอะไรที่เป็นการสูญเสียผลประโยชน์ของประชาชนก็ต้องเข้ามาจัดการ ไม่เช่นนั้นจะบอกว่าเป็นผู้แทนราษฎร คงไม่ได้ และไม่ใช่เรื่องที่ต้องรับปาก แต่เป็นหน้าที่อยู่แล้ว