วิโรจน์ ท่อง อยู่มา 9 ปี ไม่แก้ ขอลุยเองสะสางปัญหาส่วย

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วันพฤหัสที่ 8 มิ.ย.  ตนพร้อมด้วย สมาพันธ์ขนส่งทางบก จะเข้าพบจเรตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.) เพื่อนำเบาะแสที่ได้รับจาก สหพันธ์การขนส่งทางบกทางบกแห่งประเทศไทยไทย  ต่อประเด็น  " ส่วยสติ๊กเกอร์" หรือการหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ที่คาดว่าต่อปีสูงถึง 10,000 ล้านบาท   และข้อมูลที่ได้จากพลเมืองดีว่าด้วยเรื่องนี้มอบให้ เพื่อที่ผู้เกี่ยวข้องจะได้นำไปขยายผล 

มองว่าหลักฐาน " ส่วยสติ๊กเกอร์"  ชิ้นนี้จะเป็นเบาะแสสำคัญ ส่วนหลักฐานมัดแน่นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีกำลังในการสืบสวนสอบสวน ไล่เรียงตรวจสอบ   "แม้ว่าจะเป็นการตรวจสอบตำรวจด้วยกันเอง   ผมยังมีความมั่นใจ เพราะตำรวจที่เข้ามาทำเป็นจเรตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ชัดเจนในเรื่องการสอดส่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจด้วยกัน  ท่านพล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.)ประวัติท่านก็ตรงฉิน การสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจไป ณ จุดนี้ ทางเราเองก็ยังไม่มีอำนาจบริหาร หรืออำนาจหน้าที่เข้าไปสั่งการ คงต้องเชื่อใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ" 

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ทำหลังจากนี้   จะต้องดึงเอากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎกระทรวง ประกาศต่างๆ รวมถึงพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก เข้ามาพิจารณาในรายละเอียดว่ามีกฎหมายอะไรที่ไม่สอดคล้องกับหน้างานจริง และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรีดไถประชาชน นอกจากนี้ยังต้องดูไปถึงเรื่องโทษและวิธีบังคับใช้กฎหมายด้วยว่า เป็นการให้ดุลยพินิจหรืออำนาจกับเจ้าหน้าที่ที่ล้นเกินไปหรือไม่

อนึ่ง  นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ "ทวิตเตอร์"  ระบุว่า    เจอข้อความด่าเข้ามาว่า "มึงมีตำแหน่งแล้วหรือ ถึงได้เสือกไปแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น"
ผมจึงขออนุญาตตอบว่า "ก็คนที่มีตำแหน่งอยู่มาตั้ง 9 ปี มันเสือกไม่แก้ไงครับ ประชาชนที่ไม่มีตำแหน่ง เลยต้องไปเสือกแก้แทน"