ข่าว

สบส.เตือน "ฉีดสาร - ฝังมุก" อัพไซส์เจ้าโลก เสี่ยงติดเชื้อ หนักสุดต้องตัดทิ้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรม สบส. ย้ำเตือนอันตรายจากการ "ฉีดสาร - ฝังมุก" รือ วัสดุแปลกปลอม หวังขยายขนาดอวัยวะเพศ เสี่ยงเกิดอันตราย ติดเชื้อจากอุปกรณ์ที่ไม่สะอาด จนเกิดการอักเสบ บางรายลามจนเป็นมะเร็งต้องตัดอวัยวะเพศทิ้ง

10 ธ.ค.2565 จากกรณีตำรวจ ปคบ. ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)   และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จับกุมผู้ต้องหาเปิดให้บริการผ่าตัด ฝังมุก เสริมซิลิโคน ฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชาย โดยมีการประกาศโฆษณาผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยมีผู้เข้ารับบริการ แล้วเกิดการอักเสบที่อวัยวะเพศ  ติดเชื้อรุนแรง มีหนองไหล  ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะ และไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จนท.บุกเข้าจับกุมหมอเถื่อนรับฝังมุกอวัยวะเพศชาย

 

 

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข  ชี้แจงว่าจากการดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวโดยตลอดที่ผ่านมา พบว่าผู้ให้บริการฉีดสารแปลกปลอม หรือฝังวัสดุแปลกปลอม ทุกรายมิใช่แพทย์ ซึ่งมักจะมีการใช้สารแปลกปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองทางการแพทย์  อาทิ น้ำมันพืช น้ำมันมะกอก หรือซิลิโคนที่ใช้ในอุตสาหกรรม ฯลฯ มาฉีดใต้ผิวหนังของอวัยวะเพศ  

 

 

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)

 

 

ส่งผลให้ให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง บวมแดง หมดความยืดหยุ่นเกิดการดึงรั้งอวัยวะเพศ จนไม่สามารถปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์ได้ อีกทั้ง มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการติดเชื้อเป็นหนองและติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสเอชไอวี  ไวรัสตับอักเสบ จากอุปกรณ์ที่ขาดความสะอาด หรือเกิดการอักเสบลุกลามเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศจนต้องตัดอวัยวะเพศทิ้ง

 

 

 

 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการขยายอวัยวะเพศชาย ที่จนท.ตรวจยึด

 

 

ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส.  กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ที่ลักลอบประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือหมอเถื่อน  จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

และมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส.

 

 

หากประชาชนทราบเบาะแสการกระทำผิดของหมอเถื่อน ในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนกรม สบส. 1426 หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000  แต่หากอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดก็สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ     
 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ