ข่าว

"ทรัมป์" ปลดล็อก "กัญชา" พ้นบัญชียาเสพติด เทียบเท่ายาแก้ปวด

"ทรัมป์" ปลดล็อก "กัญชา" พ้นบัญชียาเสพติด เทียบเท่ายาแก้ปวด

19 ธ.ค. 2568

ประเด็นร้อนระดับโลก "ทรัมป์" ลงนามคำสั่งประวัติศาสตร์ปลดล็อก "กัญชา" พ้นบัญชียาเสพติด เทียบเท่ายาแก้ปวด ขยายโอกาสทางการแพทย์

 

วอชิงตัน ดี.ซี. — ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วยูเอส หลังลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงกัญชา ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในรอบกว่า 5 ทศวรรษ

 

"ทรัมป์" ปลดล็อก "กัญชา" พ้นบัญชียาเสพติด เทียบเท่ายาแก้ปวด

  • ปรับลดระดับสถานะ: คำสั่งนี้ระบุให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการจัดระดับกัญชาใหม่ จากเดิมที่เคยอยู่ใน "ประเภทที่ 1" (Schedule I) ซึ่งเป็นกลุ่มยาเสพติดอันตรายและผิดกฎหมายร้ายแรง (กลุ่มเดียวกับเฮโรอีน) ให้ลงมาอยู่ใน "ประเภทที่ 3" (Schedule III) ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับยาแก้ปวด "ไทเลนอลผสมโคเดอีน" (Tylenol with codeine), เคตามีน และอนาโบลิกสเตียรอยด์

 

  • ยังคงผิดกฎหมายในระดับรัฐบาลกลาง: แม้จะมีการปรับลดระดับ แต่กัญชาจะยังคงถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในระดับรัฐบาลกลาง (Federal level) ทว่าสถานะ "ประเภทที่ 3" จะช่วยเปิดทางให้สามารถทำการวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์และสรรพคุณทางการแพทย์ได้อย่างกว้างขวางขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

  • เปิดทางธุรกิจและ CBD: คำสั่งนี้ครอบคลุมไปถึงการปลดล็อกข้อจำกัดทางภาษีสำหรับสถานจำหน่ายกัญชาที่ถูกกฎหมายในระดับรัฐ (Dispensaries) และทรัมป์ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำร่วมกับสภาคองเกรสเพื่อเปิดทางให้ประชาชนเข้าถึงสารสกัด CBD (Cannabidiol) ได้ง่ายขึ้น พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขศึกษาความเสี่ยงและผลดีอย่างจริงจัง

 

 

"ทรัมป์" ปลดล็อก "กัญชา" พ้นบัญชียาเสพติด เทียบเท่ายาแก้ปวด

 

เสียงจากผู้นำ: "ประชาชนร้องขอมานาน" ทรัมป์ กล่าวในพิธีลงนามที่ห้องโอวัล ออฟฟิศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ประชาชนจำนวนมากได้ "ร้องขอ" การเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดที่รักษาไม่หาย ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคลมชัก และทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยเขาเปรียบกัญชาว่าเป็นเสมือน "ยาแก้ปวดตามใบสั่งแพทย์" ที่มีประโยชน์ในการรักษา แต่ก็อาจสร้างความเสียหายอย่างถาวรหากใช้ไม่ถูกต้อง

 

 

"ทรัมป์" ปลดล็อก "กัญชา" พ้นบัญชียาเสพติด เทียบเท่ายาแก้ปวด

 

 

รีพับลิกันเสียงแตก: "กังวลเรื่องการมอมเมาเยาวชน" แม้จะเป็นคำสั่งจากผู้นำพรรค แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติฝั่งรีพับลิกันบางส่วนกลับไม่เห็นด้วย โดย สว. รีพับลิกัน 22 คน ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดี อาร์กิวเมนต์ว่าการส่งเสริมอุตสาหกรรมกัญชาอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคนในชาติและการเติบโตของเศรษฐกิจ

ขณะที่ สส. อีก 9 คน ได้ส่งจดหมายถึงนางแพม บอนดิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ โดยโต้แย้งว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอที่จะยืนยันว่ากัญชาปลอดภัย และการปรับลดระดับครั้งนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดไปยังเยาวชนว่ากัญชาเป็นสิ่งปลอดภัย

ก้าวสำคัญที่รัฐบาลไบเดนเคยทำไม่สำเร็จ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลภายใต้การนำของโจ ไบเดน เคยเสนอการปรับลดระดับในลักษณะเดียวกันนี้ในช่วงเดือนเมษายน 2024 แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมายและขั้นตอนการบริหารจนเรื่องหยุดชะงักไป การลงนามของทรัมป์ในครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็น "ทางลัด" ที่ทำให้สิ่งที่ค้างคามาตั้งแต่ปี 1971 มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

กระแสตอบรับจากภาคอุตสาหกรรม กลุ่มผู้ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาแสดงความยินดีต่อความเคลื่อนไหวนี้ โดยนายทิม บาราช ประธานแนวร่วมปฏิรูปการจัดลำดับกัญชา ระบุว่านี่คือ "การเปลี่ยนกระบวนทัศน์" ครั้งสำคัญที่จะส่งผลดีต่อพนักงานกว่า 425,000 คนในอุตสาหกรรมกัญชาของสหรัฐฯ และจะช่วยดึงดูดเงินลงทุนรวมถึงความรู้ใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาวงการนี้

บทสรุปจากผลสำรวจ ปัจจุบัน มีรัฐในสหรัฐฯ กว่าครึ่งที่อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ และ 24 รัฐที่อนุญาตให้ใช้เพื่อสันทนาการ ขณะที่ผลสำรวจจาก Gallup เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาพบว่า ชาวอเมริกันถึง 64% สนับสนุนการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย แม้คะแนนนิยมในฝั่งรีพับลิกันจะเริ่มลดลงเล็กน้อยก็ตาม