"ทรัมป์" ขู่! เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง กดดัน ไทย-กัมพูชา เคารพข้อตกลงหยุดยิง | คมชัดลึก

 

 

(14 ธันวาคม 2568) กลายเป็นประเด็นร้อนที่สั่นสะเทือนเวทีการเมืองระหว่างประเทศอย่างรุนแรง เมื่อกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ถูกดึงเข้าไปอยู่ในเกมการทูตของมหาอำนาจ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาอ้างอย่างเป็นทางการว่า ตนได้โทรศัพท์ไกล่เกลี่ยข้อตกลง "หยุดยิงครั้งใหม่" ระหว่างนาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย และนาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

ทรัมป์ อ้างว่าทั้งสองผู้นำประเทศตกลงที่จะ “ยุติการยิงทั้งหมด” หลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวกลับสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้น

• แถลงการณ์ไร้ข้อตกลง: ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของไทยและกัมพูชาหลังการสนทนากับทรัมป์ ไม่มีการกล่าวถึงข้อตกลงหยุดยิงใดๆ

 

• คำยืนยันจากนายกฯ ไทย: นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า ไม่มีการหยุดยิงใดๆ เกิดขึ้น ตามที่ทรัมป์กล่าวอ้าง

 

 

 

 

แม้ข้อเท็จจริงเรื่องการหยุดยิงยังคลุมเครือ แต่ความตึงเครียดก็เพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อโฆษกทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม โดยมีใจความที่สร้างแรงกดดันต่อทุกฝ่าย 

“ประธานาธิบดีทรัมป์คาดหวังว่า ทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามพันธกรณีที่ได้ให้ไว้ในการลงนามในข้อตกลงเหล่านี้อย่างครบถ้วน และท่านจะดำเนินการ เอาผิดกับผู้กระทำผิดตามความจำเป็น เพื่อยุติการสังหารและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน”

แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าการ "ดำเนินการเอาผิด" ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด แต่ถ้อยคำนี้ได้ส่งสัญญาณเตือนอย่างแข็งกร้าวจากสหรัฐอเมริกาไปยังผู้ที่ละเมิดข้อตกลงใด ๆ ที่อาจมีการทำขึ้น

 

 

 

 

ที่น่าตกใจและเพิ่มความดราม่าขึ้นไปอีก คือการรายงานข่าวที่บิดเบือนจากสื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily ซึ่งได้หยิบยกข้อความของโฆษกทำเนียบขาวไปพาดหัวข่าวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิงว่า  “ทรัมป์จะลงโทษหากจำเป็นเพื่อหยุดยั้งการสังหาร ในกรณีที่ประเทศไทยฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิง” การบิดเบือนดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง และอาจยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในสถานการณ์ชายแดนที่เปราะบางอยู่แล้ว ท่ามกลางการโต้แย้งจากฝ่ายไทยที่ยืนยันว่า ไม่เคยมีข้อตกลงหยุดยิงใดๆ เกิดขึ้นจริง