ข่าว

นาทีชีวิต 3 นักบินจีน ติดอยู่ในอวกาศไร้ทางกลับโลก ยานถูกขยะอวกาศชนเสียหาย

นาทีชีวิต 3 นักบินจีน ติดอยู่ในอวกาศไร้ทางกลับโลก ยานถูกขยะอวกาศชนเสียหาย

21 พ.ย. 2568

นาทีระทึกกลางอวกาศ! 3 นักบินจีน "ติดค้าง" ไร้ทางกลับโลกยานถูก "ขยะอวกาศ" พุ่งชนเสียหายหนัก! จีนเร่งส่ง "ยานกู้ชีพ" ขึ้นช่วยชีวิต!

 

ลองจินตนาการถึงการติดอยู่บนสถานีอวกาศที่โคจรอยู่รอบโลก โดยไม่มีพาหนะใด ๆ พาคุณกลับบ้านได้ นี่คือสถานการณ์ที่นักบินอวกาศ ชาวจีน 3 นาย กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้! รายงานด่วนจากวงการอวกาศเผยว่า นักบินอวกาศทั้งสามคน ได้แก่ จาง ลู่, อู๋ เฟย, และ จาง หงจาง จากภารกิจ เสินโจว-21 (Shenzhou 21) ต้องตกอยู่ในสภาพ "ติดค้าง" บนสถานีอวกาศเทียนกง (Tiangong space station) ของจีน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากยานอวกาศเพียงลำเดียวที่ควรจะพาพวกเขากลับสู่โลก ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย

 

นาทีชีวิต 3 นักบินจีน ติดอยู่ในอวกาศไร้ทางกลับโลก ยานถูกขยะอวกาศชนเสียหาย

 

สาเหตุของความโชคร้ายครั้งนี้มาจาก "เศษขยะอวกาศชิ้นจิ๋ว" ที่พุ่งเข้าชนยานอวกาศขากลับเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยแรงชนดังกล่าวส่งผลให้ กระจกช่องมอง (Viewing Port) ของยานเกิดรอยร้าวอย่างรุนแรง ทำให้ยานเสินโจว-21 ไม่มีความพร้อมในการนำลูกเรือกลับสู่พื้นโลก ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็น "สัญญาณเตือนครั้งใหญ่" สำหรับประชาคมโลก เนื่องจากวงโคจรของโลกกำลังเต็มไปด้วยเศษซากวัตถุอวกาศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งที่สองในรอบสองปีที่มีนักบินอวกาศต้องติดค้างในวงโคจร!

 

 

นาทีชีวิต 3 นักบินจีน ติดอยู่ในอวกาศไร้ทางกลับโลก ยานถูกขยะอวกาศชนเสียหาย

 

ขณะนี้ ทาง องค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งประเทศจีน (CMSA) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า กำลังเร่งดำเนินการจัดส่ง ยานอวกาศทดแทน ที่ปลอดภัยขึ้นไปรับลูกเรือทั้งสามนายกลับบ้านโดยเร็วที่สุด แม้จะยังไม่มีการยืนยันกำหนดการที่แน่ชัด แต่จากรายงานการบินระบุว่า มีการกำหนดกำหนดการปล่อยยานสำรองขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ทั่วโลกกำลังเฝ้าจับตาดูภารกิจสำคัญครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อให้ "นักบินอวกาศ" ทั้งสามกลับสู่โลกได้อย่างปลอดภัย หลังต้องใช้ชีวิตอย่างตื่นเต้นและกังวลใจท่ามกลางความเวิ้งว้างของอวกาศ!

 

นาทีชีวิต 3 นักบินจีน ติดอยู่ในอวกาศไร้ทางกลับโลก ยานถูกขยะอวกาศชนเสียหาย

 

 

ที่มา sciencealert