
จับ 34 ชายปาร์ตี้สวิงกิ้ง ตร. เปิดหน้าแถลงข่าว เดินประจานกลางถนน
ตร.อินโดนีเซีย จับ 34 ชายปาร์ตี้สวิงกิ้งเปิดหน้าแถลงข่าว เดินประจานกลางถนน นักสิทธิมนุษยชนวิตกหนักถูกลิดรอนสิทธิ์เกินไป
โลกออนไลน์สั่นสะเทือนอีกครั้งกับรายงานข่าวสุดสะเทือนใจจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อมีการเปิดเผยว่า ชาย 34 คนถูกตำรวจจับกุมในข้อหาที่เชื่อมโยงกับ "ชายรักร่วมเพศ" และถูกนำตัวไป "เดินประจาน" (Paraded) กลางถนน ในการปฏิบัติการที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นการ "ล่าแม่มด" กลุ่ม LGBTQI+ อย่างไร้ความปรานี!
ปฏิบัติการสุดป่าเถื่อน! ล่าเป้าหมาย 'เกย์' ในพื้นที่ส่วนตัว
แม้ว่าในอินโดนีเซีย (ยกเว้นจังหวัดอาเจะห์ที่ใช้กฎหมายชารีอะห์) จะไม่มีกฎหมายอาญาที่ระบุว่าการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเพศเดียวกันเป็นอาชญากรรม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับใช้ "กฎหมายสื่อลามก" (Pornography Law) ที่มีคำนิยามกว้างและคลุมเครือ เพื่อเป็นเครื่องมือในการเข้าจู่โจมและจับกุมกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศในสถานที่ส่วนตัวอย่างต่อเนื่องการจับกุม 34 รายล่าสุดนี้ เป็นหนึ่งในรูปแบบการจู่โจมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอินโดนีเซียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานในอดีตว่าเคยมีเหตุการณ์คล้ายกันที่ร้ายแรงกว่า เช่น:
- ปี 2017: ตำรวจจาการ์ตาเคยบุกเข้าจับกุมชายถึง 141 คน ในซาวน่าที่ระบุว่าเป็น "ปาร์ตี้เปลื้องผ้าของเกย์" โดยมีรายงานจากกลุ่มนักกิจกรรมว่า เจ้าหน้าที่ได้ บังคับให้ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดแก้ผ้า และมีการ เผยแพร่ภาพเปลือย ของพวกเขาในโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด
- ปี 2025 (เดือนมิถุนายน): มีการบุกเข้าจับกุมชาย 75 คน ในงานสังสรรค์ส่วนตัวที่โบกอร์ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนและ บังคับตรวจหาเชื้อ HIV จากผู้ต้องหา และมีการเปิดเผยผลการตรวจต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกประณามว่าเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
นักสิทธิมนุษยชนชี้ 'เลือกปฏิบัติ' และ 'คุกคาม'
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่งออกมาประณามการกระทำของทางการอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กฎหมายสื่อลามกมาเป็นอาวุธในการคุกคามชีวิตส่วนตัวของกลุ่ม LGBTQI+ นักวิเคราะห์ชี้ว่า การบุกเข้าจับกุมในสถานที่ส่วนบุคคลเช่นนี้ เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความเกลียดชังและความหวาดกลัวในหมู่คนที่มีความหลากหลายทางเพศ
การ "เดินประจาน" หรือการเปิดเผยใบหน้าและข้อมูลส่วนตัวของผู้ถูกจับกุมต่อสาธารณะ ถือเป็นยุทธวิธีที่สร้างความอับอาย (Humiliation) และทำลายชีวิตของพวกเขาในระยะยาว เพราะนำไปสู่การถูกตีตรา (Stigmatization) การสูญเสียงาน และการถูกสังคมประณาม ซึ่งเป็นการลงโทษที่โหดร้ายและป่าเถื่อนยิ่งกว่าโทษทางกฎหมายใด ๆ การปฏิบัติการครั้งนี้จึงเป็นภาพสะท้อนที่น่าตกใจถึงสถานการณ์สิทธิและเสรีภาพของกลุ่ม LGBTQI+ ที่กำลังตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก และฝ่ายอนุรักษนิยมทางศาสนากำลังมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



