
เตือนโลก "กัมพูชา" ขึ้นแท่น "รัฐอุปถัมภ์อาชญากรรม" อาณาจักรฉ้อโกงระดับโลก!
เตือนโลก "กัมพูชา" ขึ้นแท่น "รัฐอุปถัมภ์อาชญากรรม" อาณาจักรฉ้อโกงระดับโลก! รายได้แก๊งสแกมเมอร์พุ่งมหาศาลแซงหน้าอุตสาหกรรมหลักของประเทศ!
กัมพูชาตกเป็นเป้าสายตาของนานาชาติอย่างหนัก ในฐานะ "ศูนย์กลาง" ของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะการฉ้อโกงทางออนไลน์ (Cyber Scam) ที่สร้างรายได้มหาศาลจนน่าตกใจ ซึ่งข้อมูลวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจสีเทานี้ได้เข้ามาเป็น "เสาหลักทางเศรษฐกิจ" ที่สำคัญกว่าอุตสาหกรรมหลักของประเทศเสียอีก
ธุรกิจฉ้อโกง ทำเงิน 6 แสนล้านบาทต่อปี
รายงานวิจัยล่าสุดจากสถาบันและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระดับโลก โดยเฉพาะงานวิจัยของ เจค็อบ ซิมส์ (Jacob Sims) และหน่วยงานอื่นๆ เช่น UNODC (สหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม) ได้เผยแพร่ข้อมูลที่สั่นสะเทือนเศรษฐกิจโลก โดยชี้ว่า:
- รายได้จากแก๊งฉ้อโกง (Scam Syndicates): เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชา ลาว และเมียนมา ได้หลอกลวงเงินจากผู้คนทั่วโลกไปเป็นมูลค่ารวมระหว่าง 50,000 – 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.6 - 2.4 ล้านล้านบาท) ในแต่ละปี
- เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอันดับ 1: อาชญากรรมไซเบอร์ที่อาศัยการลักพาตัวและบังคับใช้แรงงาน (Scam Farm) นี้ สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40-60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของกลุ่มประเทศที่มีเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ รวมถึงกัมพูชาด้วย
ตัวเลขที่สูงเกินจริงนี้ แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจหลอกลวงและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กลายเป็น "อุตสาหกรรมที่ทำกำไรสูงสุดในประวัติศาสตร์กัมพูชา" ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลจนบดบังรายได้ที่มาจากภาคเศรษฐกิจปกติ
ภัยที่มาพร้อม "การทรมาน" และ "การค้ามนุษย์"
กัมพูชาได้กลายเป็นศูนย์รวมแห่ง "ธุรกิจสีเทา" และ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่กำลังเฟื่องฟูอย่างน่าตกใจ โดยมีกลุ่มอาชญากรชาวจีนเป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญ
นักวิเคราะห์ระบุว่า แกนหลักที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตคือการ "ค้ามนุษย์" โดยมีการประเมินว่ามีผู้คนจากทั่วโลกกว่า 150,000 คน ถูกล่อลวงด้วยข้อเสนอการจ้างงานรายได้สูง ก่อนถูกกักขัง บังคับใช้แรงงาน และถูกทรมานภายในอาคารสูงที่เรียกกันว่า "Scam Compounds" ในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ถูกบังคับให้ใช้ทักษะด้านภาษาและเทคโนโลยีในการหลอกลวงเหยื่อทั่วโลก
รายงานชี้ชัดว่า ปรากฏการณ์นี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาด "การคอร์รัปชันอย่างฝังราก" และการมีส่วนรู้เห็นจาก "กลุ่มผู้มีอำนาจและชนชั้นสูงทางการเมือง" ในกัมพูชา ซึ่งให้การคุ้มครองและอำนวยความสะดวกให้กับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาตินี้ ทำให้กัมพูชาถูกมองว่าเป็น "รัฐที่เอื้อต่ออาชญากรรม" และเป็นภัยคุกคามความมั่นคงระดับโลกอย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิงหลัก: รายงานจาก Humanity Research Consultancy (Jacob Sims), United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC), United States Institute of Peace (USIP).