ข่าว

"ฮุน มาเนต" ยินดี "อนุทิน" นั่งนายกฯ คนใหม่ หวังฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา

"ฮุน มาเนต" ยินดี "อนุทิน" นั่งนายกฯ คนใหม่ หวังฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา

07 ก.ย. 2568

"ฮุน มาเนต" มาแล้ว โพสต์ยินดี "อนุทิน" นั่งนายกฯ คนใหม่ ระบุ หวังฟื้นฟูความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา กลับคืนสู่สภาวะปกติ

7 ก.ย. 2568 "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์หนังสือแสดงความยินดีกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย ใจความระบุว่า

ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งต่อท่าน ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของราชอาณาจักรไทย ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของท่าน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เข้มแข็งในความเป็นผู้นำของท่าน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และความสามารถของท่าน ราชอาณาจักรไทยจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม

ทั้งกัมพูชาและไทยต่างเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน ทั้งในด้านภูมิศาสตร์และเป็นสมาชิกอาเซียนร่วมกัน สันติภาพ การอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันเป็นความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศ

ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าด้วยความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและร่วมมือกันอย่างดี ประชาชนทั้งสองประเทศจะได้รับความสุขและเจริญรุ่งเรืองอย่างกลมกลืน

ด้วยจิตวิญญาณนี้ ข้าพเจ้าตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเปลี่ยนพรมแดนร่วมของทั้งสองราชอาณาจักรให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ขอท่านโปรดรับความนับถืออย่างสูงจากข้าพเจ้า พร้อมด้วยความปรารถนาดีที่สุดสำหรับความสำเร็จในความพยายามของท่าน


ด้วยความเคารพอย่างสูง

\"ฮุน มาเนต\" ยินดี \"อนุทิน\" นั่งนายกฯ คนใหม่ หวังฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งแรก หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเร่งแก้ไขปัญหา 4 ด้าน ที่เป็นภัยคุกคามและส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยข้อ 2 เรื่อง "ปัญหาความมั่นคง" รัฐบาลจะดำเนินมาตรการแก้ปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ ลดการสูญเสียของประชาชน โดยยึดหลักการประเทศไทยต้องไม่เสียดินแดน และคนไทยต้องไม่เสียประโยชน์ รัฐบาลจะเร่งชดเชยให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ต้องได้รับอย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทุกหลังคาเรือน