
รัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ ไม่หารือประเด็นขัดแย้ง ในการประชุม JBC
รัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ ไม่คุยประเด็นขัดแย้ง ในการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย. นี้ ระบุ เตรียมนำเรื่องพื้นที่ 4 แห่ง ขึ้นศาลโลก
5 มิ.ย. 2568 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา (RGC) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ยึดหลักสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีพรมแดนร่วมกัน
โดยกัมพูชายังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในพันธกรณีที่จะเปลี่ยนแปลงพรมแดนร่วมกันเหล่านี้ให้กลายเป็นเขตสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่กัมพูชาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ
ซึ่งสถานการณ์ในวันที่ 28 พ.ค. 2568 เวลาประมาณ 05.30 น. ได้เกิดเหตุการณ์เมื่อกองทัพไทย เปิดฉากยิงใส่กองทัพกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชโมโรโกต ชุมชนโมโรโกต อำเภอโจมคซาน จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่ตั้งทางทหารของกัมพูชามานาน ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต
รัฐบาลกัมพูชา ได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อการใช้กำลังที่ไม่มีเหตุอันควรนี้ ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และหลักการความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่ระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ระหว่างสองประเทศ
และเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2568 รัฐบาลกัมพูชา จึงได้ตัดสินใจส่งข้อพิพาทในพื้นที่อ่อนไหว 4 แห่ง ได้แก่ ช่องบก ในเขตชายแดนอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี, ปราสาทตาเมืองธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และ ปราสาทตาควาย ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก
ซึ่งพื้นที่ทั้ง 4 แห่งยังไม่ได้รับการแก้ไขและมีความอ่อนไหวมาเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเพิ่มความตึงเครียดได้หากไม่ได้รับการแก้ไข โดยการตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นเอกฉันท์จากการประชุมสมัชชาแห่งชาติและวุฒิสภาครั้งแรกในวันเดียวกัน
ในขณะที่ดำเนินการหาข้อยุติทางกฎหมายที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (RGC) ยังคงยึดมั่นในการเจรจาและการทูต กัมพูชาจะยังคงมีส่วนร่วมผ่านกรอบทวิภาคีที่มีอยู่ และจะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย. 2025 ที่กรุงพนมเปญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงการส่งต่อเรื่องดังกล่าวไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พื้นที่ทั้ง 4 ที่กล่าวถึงข้างต้นจะไม่รวมอยู่ในวาระการประชุม JBC ครั้งต่อไป