ข่าว

'อุโมงค์มรณะ' สรุปไทม์ไลน์ 'น้ำท่วมเกาหลีใต้' คร่าหลายชีวิต รวม หญิงไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'น้ำท่วมเกาหลีใต้ 2566' : สรุปไทม์ไลน์ 'อุโมงค์มรณะ' ฝนตก-ดินถล่ม 'น้ำท่วมเกาหลีใต้' คร่าหลายชีวิต รวม หญิงไทย

เหตุ “น้ำท่วมเกาหลีใต้” เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นโศกนาฏกรรมอีกครั้ง เมื่อเกาหลีใต้ เคยเผชิญน้ำท่วมใหญ่ในกรุงโซล เมื่อปี 2565 หลังเกิดฝนตกหนักสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 10 คน แต่ครั้งนั้น เกิดประเด็นข้อถกเถียง คือ ผู้เสียชีวิตบางส่วนเป็นคนยากจน ที่อาศัยอยู่ในอาคารที่พักอาศัยแออัด ที่เหมือนในภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์ เรื่อง “ชนชั้นปรสิต” (Parasite)

 

 

 

 

 

ล่าสุด “น้ำท่วมเกาหลีใต้ 2566” กับ “อุโมงค์มรณะ” คมชัดลึก สรุปสถานการณ์ พร้อมไล่เรียงไทม์ไลน์ น้ำทะลักเข้าท่วม อุโมงค์ใต้ดิน โอซอง-อึบ ถนนทางลอด ใน จ.ชุงชองเหนือ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 10 ราย ซึ่งรวมทั้ง หญิงไทยด้วย 1 ราย

 

น้ำท่วมเกาหลีใต้

ไทม์ไลน์ น้ำท่วมเกาหลีใต้ 2566

 

 

 

 

1. เหตุน้ำท่วม-ดินถล่ม ในเกาหลีใต้ เริ่มจากฝนตกหนักในเกาหลีใต้สะสมหลายวัน โดยหนักที่สุด วันที่ 13-15 ก.ค. 2566  โดยเฉพาะพื้นที่ จ.คย็องซังเหนือ เป็นเหตุให้เกิดน้ำป่า-ดินถล่ม ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมตัดขาด 

 

 

2. รายงานข่าวระบุ แม้ฝนจะเบาบางลง แต่น้ำท่วมเกาหลีใต้ยังคงสาหัสต่อเนื่อง ระดับน้ำยังคงท่วมสูง ซึ่งทางการเกาหลีใต้ อาจจำเป็นต้องปล่อยน้ำออกจากเขื่อน

 

 

3. หลังเกิดน้ำท่วมและดินถล่มตลอด 4 วันที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 37 ราย และอีก 9 คนยังคงสูญหาย จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทั่วประเทศ

 

 

4. เขื่อนกั้นแม่น้ำมิโฮ ใน จ.ชุงชองเหนือ ทางภาคกลางของเกาหลีใต้ พังเสียหาย ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งเป็นถนนทางลอด ใน จ.ชุงชองเหนือ อย่างรวดเร็ว จากกล้องวงจรปิด พบรถใช้งานอุโมงค์ 15-17 คัน อุโมงค์ทางลอดแห่งนี้ ยาว 430 เมตร ขนาด 4 ช่องจราจร

 

 

5. เจ้าหน้าที่เร่งระดมนักประดาน้ำเข้าค้นหาทั้ง 2 ทิศทาง และพยายามสูบน้ำออก หลังพบว่าจำนวนรถทั้งหมด มีผู้โดยสารอยู่ภายในหลายคน แบ่งเป็นรถยนต์ส่วน บุคคล 14 คัน, รถบรรทุก 2 คัน, รถบัสขนส่งสาธารณะ 1 คัน คาดว่า น่าจะเสียชีวิตทั้งหมด จนเรียกว่า อุโมงค์มรณะ

 

น้ำท่วมเกาหลีใต้

6. ความพยายามในการกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์มรณะ ล่าสุด นำร่างออกมาได้จำนวน 8 ราย ในจำนวนนั้นมีหญิงชราวัย 70 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 9 ราย และยังคงมีผู้สูญหายมากกว่า 10 ราย ในขณะที่ความพยายามของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประสานงานทีมที่เกี่ยวข้องช่วยสูบน้ำออกจากอุโมงค์ได้สูงสุดที่ประมาณ 80,000 ลิตร ต่อนาที

 

เหตุน้ำท่วมเกาหลีใต้

 

7. กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจาก จ.คยองซังเหนือ โดยสาเหตุหลักมาจากการจมน้ำและดินถล่มทับบ้านเรือน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขา ขณะที่พลเรือนบางส่วนยังคงสูญหายเพราะถูกกระแสน้ำพัดไป

 

 

 

“น้ำท่วมเกาหลีใต้ 2566” หญิงไทยสังเวย 1 ราย

 

 

 

8. สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ยืนยัน พบหญิงไทยเสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากที่บ้านพักใน จ.คยองซังเหนือ สถานทูตได้ติดต่อกับสามีชาวไทย ที่พำนักอยู่ด้วยกันในสาธารณรัฐเกาหลี รวมทั้งนายจ้างและตำรวจชาวเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมการเรื่องการจัดการศพแล้ว

 

 

9. ทางการเกาหลีใต้ รายงานยอดผู้เสียชีวิต ล่าสุด อยู่ที่ 37 ราย สูญหาย 9 ราย (ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดอยู่ในอุโมงค์มรณะ) พืชผลเสียหาย 19,769 เฮกตาร์ และพื้นที่เกษตรกรรม 160.4 เฮกตาร์ ยัง ไม่นับความเสียหายต่อภาคเกษตร ปศุสัตว์ ประมง เช่น ไร่นา ผลไม้ร่วงเสียหายจากฝน

 

น้ำท่วมเกาหลีใต้

 

10. ล่าสุด มีการอพยพประชาชนแล้ว 8,852 คน จำนวน 5,125 ครัวเรือน ใน 98 เมือง  ใช้มาตรการควบคุมล่วงหน้าในพื้นที่อันตรายและเปราะบางทั่วประเทศห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง

 

 

11. สำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนักมากขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะตอนกลาง-ใต้ จนถึงวันพุธที่ 19 ก.ค. 2566 และขอให้ประชาชนงดเว้นจากการออกไปข้างนอก

 

     น้ำท่วมเกาหลีใต้

 

 

เกาหลีใต้ 1  ในประเทศที่จัดการบริหารน้ำได้ดีที่สุด อันดับต้นของโลก

 

 

12. เกาหลีใต้ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำในช่วงมรสุมฤดูร้อน แต่โดยปกติแล้วประเทศจะมีการเตรียมพร้อมอย่างดี และจำนวนผู้เสียชีวิตมักจะค่อนข้างต่ำ โดยล่าสุด เกาหลีใต้เพิ่งเผชิญฝนตกหนักและน้ำท่วมสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 11 ราย

 

 

13. รัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่า ฝนตกหนักในปี 2565 ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมสูงที่สุด นับตั้งแต่บันทึกสภาพอากาศในกรุงโซลเมื่อ 115 ปีก่อน โดยกล่าวโทษการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าเป็นต้นเหตุของสถานการณ์แปรปรวนทางธรรมชาติ

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก : World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ