ขั้นตอน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร

6 พฤษภาคม 2023 จะเป็นอีกหนึ่งวันที่จะถูกจารึกในประวัติศาตร์และความทรงจำของคนทั้งโลก ที่จะได้เห็นพิธีอันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในรอบ 70 ปี นั่นก็คือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กลางกรุงลอนดอน เป็นพิธีการที่ยึดถือกันมานานกว่า 1,000 ปี และนับเป็นสัญลักษณ์ในการประกาศให้โลกรับรู้ถึงการเริ่มต้นรัชสมัยใหม่

สำหรับ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 นั้น อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเล็กน้อยให้เข้ากับสภาพสังคม เศรษฐกิจ ทัศนคติของคนยุคปัจจุบัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ อลังการ ส่วนขั้นตอนการประกอบพิธีก็จะสั้นลง

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะเริ่มต้นประมาณ 11.00 น. สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จฯ จากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยขบวนเสด็จจะเคลื่อนผ่านถนนเดอะมอลล์ ที่สู่จัตุรัสทราฟัลการ์ ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าถนนไวท์ฮอลล์และถนนรัฐสภาตามลำดับ จากนั้นจะเข้าสู่จัตุรัสรัฐสภา และอาคารบรอดแซงชัวรี่ ไปที่ประตูใหญ่ทิศตะวันตกของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เวลา 12.00 น.

เมื่อถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จฯ เข้าสู่ด้านในโดยทรงพระดำเนินผ่านประตูใหญ่ด้านทิศตะวันตกเข้าถึงโถงใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

พระราชพิธีเริ่มต้นด้วยการบรรเลงดนตรีซึ่งเป็นเพลงที่ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเลือกด้วยพระองค์เอง และยังโปรดให้ประพันธ์เพลงขึ้นใหม่ 12 เพลง และยังมีผลงานเพลงรำลึกถึงเจ้าชายฟิลลิปส์ พระราชบิดาด้วย

สำหรับขั้นตอน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก แบ่งได้ดังนี้

• อาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี่ ผู้นำศาสนจักรแห่งอังกฤษ ประกาศแนะนำกษัตริย์พระองค์ใหม่ขณะประทับยืนอยู่หน้าบังลังก์ราชาภิเษก (พระราชอาสน์เซนต์เอ็ดเวิร์ด) จากนั้นผู้เข้าร่วมพระราชพิธีถวายความเคารพและกล่าวคำแสดงความจงรักภักดี 
• กษัตริย์พระองค์ใหม่ทรงกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ เพื่อยืนยันว่าจะทรงพิทักษ์รักษากฎหมายของแผ่นดินและศาสนจักรแห่งอังกฤษ โดยจะทรงวางพระหัตถ์ลงบนพระคัมภีร์ไบเบิ้ลระหว่างที่ตรัสคำปฏิญาณ
• สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงประทับบนบัลลังก์ราชาภิเษกเพื่อรับการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์จากอาร์คบิชอปแคนเทอร์เบอรี่โดยมีผ้าดาดเพดานสีทองกางไว้เพื่อไม่ให้ผู้เข้าร่วมพิธีมองเห็นจากด้านบน อาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี จะเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่ พระหัตถ์ พระอุระ และพระเศียร
• อาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี่ ถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์แด่กษัตริย์พระองค์ใหม่ ขณะที่ยังประทับบนพระราชอาสน์ โดยเริ่มจากการถวายพระลูกโลกประดับกางเขน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระราชอำนาจทางศีลธรรมและศาสนา, พระธำมรงค์ประจำพระมหากษัตริย์ ตามมาด้วยการถวายพระคฑาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมและความเมตตากรุณา จากนั้นจึงจะสวมพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ดลงบนพระเศียร
• หลังเสร็จเสร็จสิ้นขั้นตอนในพระราชพิธีของกษัตริย์พระองค์ใหม่แล้ว จะมีการประกอบพระราพิธีอภิเษก โดยนักบวชจะเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และความเครื่องราชกกุธภัณฑำหรับพระอัครมเหสี และถวายพระมหามงกุฎควีนแมรี่
• พระราชพิธีสำหรับสมเด็จพระราชินี : หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนในพระราชพิธีของกษัตริย์พระองค์ใหม่แล้ว จะมีการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์และสวมพระมหามงกุฎให้กับสมเด็จพระราชินีด้วยเช่นกัน
• หลังจากการประกอบพระราชพิธีในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จฯ ไปยังวิหารน้องเซนต์เอ็ดเวิร์ด เพื่อเปลี่ยนพระมหามงกุฎจากพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด เป็นพระมหามงกุฎอิมพีเรียลสเตท แล้วเสด็จออกออกจากพระวิหารเพื่อร่วมขบวนเคลื่อนกลับไปที่พระราชวังบักกิงแฮมตามเส้นทางเดิม โดยขณะนั้นจะมีการบรรเลงเพลงชาติอังกฤษ
• หลังจากเสร็จสิ้นการประกอบพระราชพิธีบรมราชภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จะเสด็จออกสีหบัญชร ณ พระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมที่ราชวงศ์อังกฤษทรงยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด เพื่อพบปะ ทักทายประชาชน
• จากนั้นฝูงเครื่องบินรบจากทุกเหล่าทัพจะบินถวายพระเกียรติเหนือพระราชวังเป็นเวลา 6 นาที ปิดท้ายด้วยฝูงบิดผาดแผลง “เดอะ เรด แอร์โรว” เป็นสัญลักษณ์ว่าสิ้นสุดการเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก