
ดราม่าฝั่งลาว 'แม่ค้า' จับ 'เด็ก' ขโมยขนมมัดประจาน
ดราม่าสะเทือนใจจนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์จาก สปป.ลาว "แม่ค้าจับเด็กน้อยขโมยขนม" มัดติดรถจักรยานยนต์ ทำเอาคนลาวทั้งประเทศประณามการกระทำ
เหตุเศร้าสะเทือนใจ แม่ค้าลาว จับ เด็กน้อยขโมยขนมมัดติดมอเตอร์ไซค์ มีคนลาวแชร์คลิปและภาพเด็ก กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ฝั่งซ้าย
หลังคนลาวทั้งประเทศ ได้ชมคลิปเด็กถูกมัดติดกับมอเตอร์ไซค์ ก็มีเสียงประณามการกระทำอันเกินกว่าเหตุดังกล่าว ทำให้สามีของแม่ค้า ต้องออกมาขอโทษสังคม พร้อมเยียวยาเด็ก
สื่อออนไลน์ สะเก็ดข่าว ของ สปป.ลาว ได้ประมวลเหตุการณ์แม่ค้าจับเด็กน้อยมัดไว้ดังนี้
1.เด็กถูกจับมัด ชื่อ ท้าว ซูลี ย่าง ชาติพันธุ์ ม้ง อายุ 9 ปี กำลังเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนภูหัวช้าง เมืองอานุวง แขวงไซสมบูน
2. ท้าว ซูลี เป็นลูกกำพลอย คือ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก แม่ไปทำงานต่างเมือง พ่อแต่งงานใหม่ ท้าว ซูลี จึงถูกเลี้ยงดูโดยแม่ตู้ หรือย่า
3.แม่ตู้ชื่อ นาง โย มั่ว อายุ 40 ปี เลี้ยงหลาน บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนแห่งนั้น
4.วันเกิดเหตุคือ 6 มี.ค.2566 ท้าว ซูลี เข้าไปขโมยขนม 1 ชิ้น มูลค่า 5,000 กีบ (500 กีบ เท่า 1 บาท) ถูกเจ้าของร้านจับได้ แล้วมัดไว้กับรถจักรยานยนต์ เพื่อให้ผู้ปกครองมาเจรจาความชดใช้ค่าขนม
5.ร้านค้าแห่งนั้น เจ้าของชื่อ นาง เวียงคำ เป็นผู้จับมัดเด็ก
6.ตอนเย็นวันเดียวกัน ท้าว ซูลี ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เมืองอานุวง นำตัวไปตรวจสุขภาพ กินยา แล้วนำส่งให้แม่ตู้ดูแลต่อไป
ต่อมา สามีของนางเวียงคำ ได้ออกมาขอโทษสังคมอย่างจริงใจ และชี้แจงถึงเหตุ การณ์ผ่านคลิปว่า เด็กน้อยมาขโมยขนมในร้าน 3 ครั้ง เมียถามหาพ่อแม่ แต่เด็กน้อยไม่ยอมตอบ จึงจับมัดไว้กับมอเตอร์ไซด์
ตัวเขาเองยอมรับว่า การกระทำดังกล่าวของเมีย เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ พร้อมจะไกล่เกลี่ยกับผู้ปกครองเด็ก และสู่ขวัญเด็กน้อยคนกล่าว
สำหรับกระบวนยุติธรรม สปป.ลาว ประเด็นการกระทำทารุณกรรมผู้หญิงและเด็กน้อย มีโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 263 มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี ปรับไหม 3 ล้านถึง 10 ล้านกีบ
ดูเหมือนเรื่องแม่ค้าจับเด็กน้อยขโมยขนม ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะมีผู้ใจบุญทั้งหลาย หลั่งไหลบริจาคเข้าบัญชีของแม่ตู้หรือย่าของเด็กน้อยอย่างมากมาย บางคนเสนอมอบทุนการศึกษา และมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งในเมืองอานุวง รวบรวมเงินซื้อขนมไปให้ท้าว ซูลี ถึงบ้านพัก
ประเด็นการบริจาคเงินให้เด็กน้อย ทำให้กระแสเสียงคนลาวในโซเชียล แตกออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มหนึ่งเห็นว่าเด็กยากจน ถูกกระทำรุนแรง ต้องช่วยเหลือ แต่อีกกลุ่มหนึ่งให้แยกเป็น 2 กรณีคือ เด็กน้อยขโมยขนม เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และสิ่งที่แม่ค้ากระทำลงไปนั้นก็เกินกว่าเหตุจริง
ฝ่ายเห็นแย้งกระแสคนใจบุญนั้น เพียงแต่ไม่ต้องการสนับสนุนเรื่องเด็กลักขโมยเป็นเรื่องถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเด็กทั่วประเทศจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
อย่างไรก็ตาม มีสื่อออนไลน์ลาวบางสำนักแจ้งว่า มียอดบริจาคเงินช่วยเด็กผ่านบัญชีธนาคารของแม่ตู้แล้วประมาณ 90 ล้านกีบ (500 กีบเท่ากับ 1 บาท)