“ลิซ ทรัสส์” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออก และกล่าวขอโทษประชาชน โดยยอมรับว่ารัฐบาลของเธอ "ทำผิดพลาด" จากการปฏิรูปนโยบายหลายอย่างที่มาก และเร็วเกินไป จนทำให้อังกฤษต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ยืนยันว่าจะยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ของอังกฤษได้ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ (20 ต.ค.) หลังไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณลดภาษี
ซึ่งเรื่องนี้ สร้างความปั่นป่วนอย่างหนักให้กับตลาดหุ้น จนเกิดกระแสกดดันให้เธอลงจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพี รวบรวม 3 แนวทาง ที่นางทรัสส์ จะพ้นจากตำแหน่ง โดยหนึ่งในนั้นคือการลาออกจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่เพิ่งเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ต่อจากนายบอริส จอห์นสัน เมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมานี่มานี่เอง
และมี ส.ส.พรรคอนุรักษนิยม ราว 12 คน เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีหญิงลาออก หลังคว่ำนโยบายเศรษฐกิจของเธอเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
โดยมี ส.ส. หลายคนบอกผู้สื่อข่าวว่า การดำรงตำแหน่งของเธอสิ้นสุดและมีผลแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า รัฐมนตรีคนสนิท ของนางทรัสส์ คนหนึ่ง บอกกับเดอะไทม์สว่า สถานการณ์ถึง “ปลายทาง” แล้ว
หลังการตัดสินใจของเธอ ที่ปลดรัฐมนตรีคลังเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน และเหตุการณ์เมื่อวันพุธ (19 ต.ค.65) ที่ผ่านมา จนรัฐมนตรีมหาดไทยต้องลาออกอีกทั้งยังมี ส.ส.กบฏ ภายในพรรค โหวตในสภาด้วย
นางทรัสส์ อาจตัดสินใจได้ว่าถึงเวลาต้องลง โดยเธอยังเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต่อไปจนกว่าหาคนมาสืบต่อได้ นั่นอาจมีการเลือกผู้นำพรรคอนุรักษนิยมอีกครั้งในเวลาไม่ถึง 2 เดือนนี้
มีรายงานว่า นางทรัสส์ กล่าวกับ “บีบีซี “ ว่า เธอขอยอมรับผิดและขอโทษต่อประชาชนอังกฤษ จากการใช้นโยบายที่ผิดพลาดในการบริหารประเทศเนื่องจากนโยบายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มากและเร็วเกินไป แต่ยืนยันว่า เธอจะยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเพื่อบริหารประเทศต่อไป แม้มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสงสัยว่ามีบุคคลใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายของรัฐบาลอังกฤษหรือไม่
โดยผู้นำอังกฤษยัง ระบุว่า เธอยังคงเชื่อมั่นในนโยบาย "เศรษฐกิจที่เติบโตสูง, ภาษีต่ำ" (high-growth, low-tax economy) แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของอังกฤษก่อน
พร้อมทั้งกล่าวคำขอโทษประชาชน โดยเธอยอมรับว่ารัฐบาลของเธอ "ทำผิดพลาด" หลังจากการประกาศมาตรการทางเศรษฐกิจในงบประมาณขนาดเล็กของเดือนที่แล้วทำให้ตลาดการเงินตื่นตระหนก
ซึ่งความเห็นของเธอมีขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของอังกฤษ ประกาศยกเลิกแผนเศรษฐกิจของรัฐบาล ในการลดภาษีและแผนการใช้จ่ายส่วนใหญ่ที่ประกาศเมื่อไม่ถึงเดือนก่อน ขณะที่การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่าผู้นำอังกฤษคนปัจจุบันจะสามารถดำรงตำแหน่งได้อีกนานเท่าใด
และในการตอบคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเธอ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางทรัสส์ กล่าวว่า เธอต้องการมุ่งเน้นไปที่การทำงานเพื่อประชาชนชาวอังกฤษ
"เราอยู่ในยุคเศรษฐกิจที่ยากลำบาก เราอยู่ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญความยากลำบากในขณะที่สงครามยังคงเกิดขึ้นในยูเครน และตอนนี้เป็นเวลาที่จะมุ่งเน้นที่การทำงานเพื่อประชาชน"
ซึ่งคำกล่าวนี้ ของเธอ มีขึ้นหลังจากที่ นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ของอังกฤษ เข้ารับตำแหน่งแทน นายควาซี ควาร์เต็ง อดีตรัฐมนตรีคลังที่เพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ และเขาได้ประกาศยกเลิกนโยบายปรับลดภาษีของนางทรัสส์ เกือบทั้งหมดเพื่อยับยั้งปัญหาเศรษฐกิจ จนทำให้สถานะผู้นำของผู้นำประเทศ ตกอยู่ในภาวะสั่นคลอน
ขณะที่นายโรเจอร์ เกล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า นายฮันต์ ถือเป็นนายกรัฐมนตรีโดยพฤตินัยของอังกฤษ
ส่วนนายฮันต์ ก็ออกมาระบุว่า เขาและนางทรัสส์ เห็นพ้องร่วมกันเมื่อวันอาทิตย์ในการยกเลิกนโยบายปรับลดภาษีเกือบทั้งหมดที่ผู้นำอังกฤษได้ประกาศไปเมื่อ3 สัปดาห์ก่อน
นายฮันต์ยังคาดการณ์ว่าการยกเลิกนโยบายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีเงินเพิ่มขึ้นปีละ 32,000 ล้านปอนด์ หรือราว 1.38 ล้านล้านบาท
สำหรับ นางทรัสส์ ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา หรือ 2 วันก่อน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line https://lin.ee/qw9UHd2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง