เด็ก 13 ปีดับหลับไม่ตื่น หลังฉีดวัคซีน "Pfizer" เข็มที่สอง 3 วัน

สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) กำลังสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กชาย จาคอบ ไคลนิก (Jacob Clynick )วัย 13 ปี  ที่เมือง Saginaw  รัฐมิชิแกน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สอง 3 วัน โดย แทมมี บูราเกส ป้าของของเด็ก บอกสื่อท้องถิ่น Detroit Free Press ว่า หลานชายที่กำลังเตรียมเข้าโรงเรียนมัธยมต้น  สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว  เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สอง เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. จากนั้น 2 วัน มีอาการข้างเคียงทั่วไป อย่างอ่อนเพลียและเป็นไข้  

คืนวันที่ 15 มิถุนายน เด็กชายบ่นว่าปวดท้อง แต่อาการไม่มากพอจนต้องกังวล  จาคอบเข้านอนตามปกติและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย เด็กชายเสียชีวิตกลางดึกขณะหลับ  

สำนักงานสาธารณสุขเมือง Saginaw ระบุในแถลงการณ์ว่า การสอบสวนเพื่อสรุปว่าการเสียชีวิตของจาคอบ เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อยู่ที่ซีดีซีแล้ง ขณะเดียวกัน ขอให้ครอบครัวได้ปรึกษาแพทย์ เพื่อชั่งความเสี่ยงและประโยชน์ก่อนรับวัคซีน  

ป้าของจาคอบ เปิดเผยว่า ผลชันสูตรเบื้องต้นพบขณะเสียชีวิต หัวใจของจาบอบโตขึ้นและมีของเหลวอยู่รอบๆ แต่สถาบันการแพทย์และนิติวิทยาศาสตร์มิชิแกน ที่ทำหน้าที่ชันสูตรเบื้องต้น ปฏิเสธยืนยัน อ้างว่าซีดีซีกำลังสอบสวนอยู่ และคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาราว 3-5 เดือนกว่าจะสรุปได้ว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด และเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ 

การเสียชีวิตของจาคอบ มีขึ้นท่ามกลางการถกเถียงทั่วโลกว่า ควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่เด็กหรือไม่  และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะที่ปรึกษาของซีดีซี แถลงว่า พบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนไฟเซอร์กับโมเดอร์นา กับอาการโรคหัวใจในเด็กผู้ชายและคนวัยหนุ่มสาว โดยผู้รับวัคซีนมากกว่า 1,200 คน มีภาวะอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผู้ชายมีอาการนี้มากกว่าผู้หญิง และพบในผู้ที่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่สองมากกว่า แต่ยืนยันว่าประโยชน์ของวัคซีนยังมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซีดีซีได้ออกคำเตือนผลข้างเคียงของวัคซีนต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเพิ่มเติมแล้ว