พบซากเรือดำน้ำของสหรัฐนอกฝั่งภูเก็ต สูญหาย 77 ปีช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

 

ซากเรือดำน้ำ “ยูเอสเอส เกรนาเดียร์” ( USS Grenadier) ถูกพบอยู่ในลักษณะตั้งลำ บางส่วนมีแหปกคลุม อยู่ใต้น้ำลึกกว่า 80 เมตร ในช่องแคบมะละกา ห่างจากทางใต้ของเกาะภูเก็ตของไทย ประมาณ 145 กม. โดยทีมนักดำน้ำ 4 คนประกอบด้วย Jean Luc Rivoire ที่อยู่ในสิงคโปร์  Lance Horowitz  ชาวออสเตรเลีย  Benoit Laborie ชาวฝรั่งเศส และ Ben Reymenants นักดำน้ำเบลเยี่ยมที่อยู่ในภูเก็ตและเคยร่วมภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ค้นพบซากเรือประวัติศาสตร์ลำนี้ เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว แต่เพิ่งแถลงในเดือนนี้ 

Horowitz วัย 36 ปีกล่าวที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(8 ก.ย.)ว่าในช่วง 6 เดือนหลังการพบซาก ทีมงานดำน้ำลงไป 6 ครั้งเพื่อทำการศึกษาเพิ่มเติม จนมั่นใจว่าพวกเขาพบพิกัดของเรือดำน้ำเกรนาเดียร์ หลังจากวัดส่วนต่างๆของซากเรือเปรียบเทียบกับภาพวาดทางเทคนิคจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ 

 

เรือดำน้ำเกรนาเดียร์  มีความยาวกว่า 9 เมตร หนัก 1,475 ตัน ออกจากเพิร์ล ฮาร์เบอร์ เพื่อปฏิบัติภารกิจลาดตระเวณ เมื่อ 4 ก.พ. 2485 โดยก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในเรือดำน้ำสหรัฐ52 ลำที่สูญหายในสงคราม เกรนาเดียร์ จมเรือข้าศึก 6 ลำ ทำให้เสียหายอีก 2 ลำ จากภารกิจ 5 ครั้ง  ก่อนพบจุดจบในภารกิจลาดตระเวนครั้งที่ 6 และเป็นครั้งสุดท้ายในช่องแคบมะละกา ทางน้ำระหว่างแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย เมื่อเดือนเมษายน  2486  

 

Naval History and Heritage Command

 

จากบันทึกของ น.ต. จอห์น เอ.ฟิตเจอรัลด์ ผู้บังคับการเรือ ที่เขียนขึ้นหลังเป็นอิสระจากค่ายเชลยญี่ปุ่นในปี 2488 ระบุว่า คืนวันที่ 20 เม.ย. 2486 เรือดำน้ำเกรนาเดียร์พบเห็นเรือสินค้าขนาดเล็ก2 ลำ และวางแผนสกัดในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำเพื่อทำความเร็ว แต่ครื่องบินญี่ปุ่นเห็นเสียก่อน จึงออกคำสั่งให้ดำลงอย่างเร็วที่สุด แต่ก็ไม่เร็วและลึกมากพอ ระเบิด 2 ลูกที่ถูกทิ้งลงมาทำให้เรือเสียหายหนัก ไฟดับและเกิดไฟไหม้ ลูกเรือเร่งมือซ่อมแซมเท่าที่สามารถทำได้ เมื่อโผล่ผิวน้ำในอีก 13 ชม.ต่อมา ก็ชัดเจนว่าเกรนาเดียร์ไม่อยู่ในสภาพที่จะหลบหนีหรือต่อสู้ ลูกเรือพยายามเฮือกสุดท้ายพาเรือเข้าหาฝั่งหวังซ่อนตัวในป่า แต่ปรากฎว่ามีเรือ 2 ลำกำลังมุ่งมาทางเรือเกรนาเดียร์  จึงสั่งทำลายคู่มือการลงรหัสและอุปกรณ์อ่อนไหวทั้งหมด เกรนาเดียร์ยังยิงปืนกลต่อสู้เครื่องบินญี่ปุ่นลำหนึ่งที่ทิ้งระเบิดห่างออกไป 200 เมตร

 

 

ลูกเรือทั้ง 76 คนรอดชีวิต แต่ถูกกวาดต้อนขึ้นเรือสินค้าติดอาวุธ นำตัวไปยังปีนัง เมืองท่ามาเลเซีย จุดเริ่มต้นของการถูกทรมานและทุบตีขณะสอบปากคำ ก่อนส่งแยกย้ายไปยังค่ายเชลยหลายแห่งในคาบสมุทร รวมถึงญี่ปุ่น หลังสงครามโลกปิดฉาก ลูกเรือจึงได้รับอิสรภาพ เว้น 4 คนที่เสียชีวิตเพราะไม่ได้รับการรักษาพยาบาล

 

 

ขั้นตอนหลังจากนี้ คือการรอให้กองบัญชาการมรดกและประวัติศาสตร์กองทัพเรือ ( Naval History and Heritage Command )  พิสูจน์ยืนยันภาพถ่ายและข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับจากทีมนักดำน้ำ โดยตามปกติ การประเมินและวิเคราะห์เอกสารทั้งหมด อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2 เดือนจนถึง 1 ปี   ดร.รอเบิร์ต เนย์แลนด์ หัวหน้าฝ่ายธรณีวิทยาใต้น้ำ กองบัญชาการมรดกและประวัติศาสตร์กองทัพเรือ กล่าวว่า  กรณีนี้คาดว่าใช้เวลาราวสองเดือน และว่าการพิสูจน์ยืนยันการค้นพบเรือลำใดก็ตาม ดังเช่นกรณีเรือ ยูเอสเอส เกรนาเดียร์ เป็นกระบวนการที่กองทัพเรือให้ความสำคัญ เพราะไม่เพียงแต่เป็นการคุ้มครองทางกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยเรือกองทัพอัปปาง (Sunken Military Craft Act) เท่านั้ แต่ยังช่วยให้ครอบครัวญาติพี่น้องของลูกเรือที่เสียชีวิตในหน้าที่ ไม่มีเรื่องค้างคาใจอีกต่อไป