ดาราดังอินเดีย อักษัย กุมาร เผยดื่มฉี่วัวทุกวัน ชาวภารตแห่ค้นกูเกิลดีจริงหรือ 

 

อักษัย กุมาร ( Akshay Kumar) ดารายอดนิยมตลอดกาลแห่งวงการบอลลีวูด ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ดูแลหุ่นได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการคุมอาหารเคร่งครัดและออกกำลังกายเป็นประจำ ล่าสุด ยังเผยเคล็ดลับเล็กๆให้แฟนฮือฮาอีกอย่างว่า เขาดื่มฉี่วัวเป็นประจำทุกวัน 

ดาราดังวัย 53 ปี ซึ่งกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ BellBottom อยู่ในสก็อตแลนด์ ได้เข้าร่วมไลฟ์ผ่านอินสตาแกรม กับแบร์ กริลล์ส นักผจญภัยชื่อดังชาวอังกฤษ เพื่อโปรโมทรายการ Into The Wild ตอนพิเศษที่ทั้งสองไปผจญภัยในแหล่งอนุรักษ์เสืออินเดียด้วยกัน ตัวอย่างรายการแสดงให้เห็นทั้งสองดื่มชาจากมูลช้างด้วย 

 

 

เมื่อฮูมา คิเรชิ ดาราหญิงอินเดียที่ร่วมไลฟ์ ถามอักษัยว่าทำใจดื่มชามูลช้างได้อย่างไร เขาตอบว่า “ผมไม่รู้สึกอะไร ผมตื่นเต้นจนไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย ผมดื่มฉี่วัวด้วยเหตุผลด้านอายุรเวททุกวัน ดังนั้น ที่ดื่มไปนั่นก็ไม่เท่าไหร่” 

 

 

 

 

 

news18 สื่ออินเดีย รายงานว่า หลังนักแสดงรุ่นใหญ่เปิดเผยเรื่องนี้ ชาวเน็ตอินเดียจำนวนมากก็แห่เข้ากูเกิลค้นข้อมูลทันที เพื่อหาข้อมูล ฉี่วัวมีสรรพคุณทางการแพทย์จริงหรือ  คำค้นบนกูเกิลอินเดีย "ฉี่วัว ประโยชน์ต่อสุขภาพ"  "ฉี่วัว หลักฐานวิทยาศาสตร์"  "อักษัย กุมาร ฉี่วัว" จนกลายเป็นคำค้นติดเทรนด์

 

 

ฉี่วัว มีแร่ธาตุหลายชนิด อาทิ โซเดียม โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส ครีเอตินิน และเซลล์เยื่อบุ แต่เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานว่าจริงหรือที่รักษาได้สารพัดโรค ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง หรือล่าสุด โควิด-19 แต่ขณะยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ใดๆรองรับ  นักการเมืองพรรครัฐบาลบางคนได้ออกมาแนะนำประชาชนให้ดื่มของเสียจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู เพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่า อ้างว่าเป็นภูมิปัญญาการแพทย์อินเดีย  เมื่อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาดในช่วงแรกๆเมื่อเดือนเมษายน นักวิทยาศาสตร์ในอินเดียต้องออกมาเตือนกันวุ่น หลังมีการแชร์ข่าวปลอมและส่งต่อกันผ่าน  WhatsApp ว่าฉี่วัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและป้องกันไวรัสได้ 

เมื่อเดือนก.พ. หน่วยงานรัฐหลายแห่งเรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์ทำวิจัยหัวข้อ วัวบำบัด (cowpathy) ว่าด้วยการใช้ฉี่วัวเป็นยารักษาโรค เช่น เบาหวาน หรือมะเร็ง หรือใช้ประโยชน์ในทางเกษตรกรรม ตลอดจนทำแชมพูสระผม และน้ำมัน เป็นเหตุให้นักวิทยาศาสตร์อินเดียกว่า 500 คนลงชื่อจดหมายเปิดผนึก ขอให้รัฐบาลเพิกถอนข้อเสนอนี้ โดยชี้ว่าไม่มีข้อมูลพิสูจน์ได้ประกอบแม้แต่น้อย และสิ้นเปลืองงบประมาณใช่เหตุ ขณะที่การวิจัยในหัวข้ออื่นที่สำคัญกว่ากลับขัดสนทุนวิจัย